คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1015/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นให้หมายเรียกบริษัท อ.เข้ามาเป็นจำเลยร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา57(3)(ก)เมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตบริษัท อ.จึงเข้ามาในคดีโดยเป็นคู่ความฝ่ายที่สามซึ่งตามมาตรา58วรรคหนึ่งบัญญัติให้ผู้ร้องสอดที่เข้ามาตามมาตราดังกล่าวมีสิทธิเสมือนหนึ่งว่าตนได้ฟ้องหรือถูกฟ้องเป็นคดีเรื่องใหม่บริษัท อ.จำเลยร่วมจึงให้การต่อสู้คดีได้ทั้งโจทก์และจำเลยตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา177วรรคท้ายแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งดังนั้นจำเลยร่วมจึงมีสิทธิที่จะให้การต่อสู้ในเรื่องโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้

ย่อยาว

คดี นี้ สืบเนื่อง มาจาก โจทก์ ฟ้อง ขอให้ ขับไล่ จำเลย ออกจากสถานที่ เช่า อ้างว่า ครบ กำหนด เวลา ตาม สัญญาเช่า แล้ว และ ขอให้จำเลย ชดใช้ ค่าเสียหาย
จำเลย ให้การ และ ฟ้องแย้ง ว่า โจทก์ ไม่มี อำนาจฟ้อง ขับไล่ จำเลยเพราะ โจทก์ ไม่มี สิทธิ ใน สถานที่ เช่า แล้ว และ จำเลย ก็ ได้ ทำ สัญญาเช่าสถานที่ เช่า ดังกล่าว กับ บริษัท เอ็มบีเคพร็อพเพอร์ตี้ส์แอนด์ ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ผู้มีสิทธิ ใน สถานที่ เช่า ใหม่ แล้ว ขอให้ ยกฟ้อง และ ให้ โจทก์ คืนเงิน ประกัน จำนวน 143,697 บาท พร้อม ด้วย ดอกเบี้ย
ระหว่าง พิจารณา จำเลย ยื่น คำร้องขอ ให้ เรียก บริษัท เอ็มบีเคพร็อพเพอร์ตี้ส์แอนด์ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด เข้า มา เป็น จำเลยร่วม อ้างว่า หาก ศาล พิพากษา ให้ จำเลย แพ้ คดี จำเลย ก็ ต้องไป ฟ้อง เรียก เอา เงิน ค่าเช่า และ ค่าเสียหาย จาก บริษัท เอ็มบีเคพร็อพเพอร์ตี้ส์แอนด์ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ศาลชั้นต้น อนุญาต
บริษัท เอ็มบีเคพร็อพเพอร์ตี้ส์แอนด์ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ยื่นคำให้การ เข้า มา ใน คดี ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ว่า “รับ เป็น คำให้การของ จำเลยร่วม สำเนา ให้ โจทก์ และ จำเลย เดิม ด้วย ” ต่อมา วันนัด สืบพยาน จำเลย ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ว่า เนื่องจาก คดี นี้ จำเลย ได้ ยื่นคำร้องขอ ให้ ศาล เรียก บริษัท เอ็มบีเคพร็อพเพอร์ตี้แอนด์ ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด เข้า มา เป็น จำเลยร่วม ศาล ได้ มี คำสั่ง เรียก แล้ว และ จำเลยร่วม ได้ ยื่นคำให้การ เข้า มา และ ศาล ได้สั่ง รับคำ ให้การ ของ จำเลยร่วม ไว้ แล้ว นั้น เห็นว่า คลาดเคลื่อนให้ เพิกถอน คำสั่ง รับคำ ให้การ ของ จำเลยร่วม แต่ ให้ รับ เป็น คำแถลงการณ์ของ จำเลยร่วม
จำเลยร่วม อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายก คำสั่งศาล ชั้นต้น ให้ ศาลชั้นต้น รับคำให้การ ของ จำเลยร่วม แล้ว ดำเนิน กระบวนพิจารณา ต่อไป
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า คดี มี ปัญหา ต้อง วินิจฉัย ตาม ฎีกา โจทก์ ว่าจำเลยร่วม ให้การ ต่อสู้ คดี โจทก์ ได้ หรือไม่ เห็นว่า จำเลยร่วม เข้า มาใน คดี โดย เป็น คู่ความ ฝ่าย ที่ สาม ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 57(3)(ก) ซึ่ง ตาม มาตรา 58 วรรคแรก บัญญัติ ให้ ผู้ร้องสอดที่ เข้า มา ตาม มาตรา ดังกล่าว มีสิทธิ เสมือน หนึ่ง ว่า ตน ได้ ฟ้อง หรือถูก ฟ้อง เป็น คดี เรื่อง ใหม่ จำเลยร่วม จึง ให้การ ต่อสู้ คดี ได้ ทั้ง โจทก์และ จำเลย ตาม ที่ บัญญัติ ไว้ มาตรา 177 วรรคท้าย แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ดังนี้ แม้ จำเลย จะ เป็น ผู้ เรียกให้ จำเลยร่วม เข้า มา ใน คดี จำเลยร่วม ก็ มีสิทธิ ให้การ ต่อสู้ คดี โจทก์ได้ว่า โจทก์ ไม่มี อำนาจฟ้อง ขับไล่ จำเลย เพราะ สถานที่ เช่า เป็น ของจำเลยร่วม และ จำเลยร่วม ได้ ทำ สัญญา ให้ จำเลย เป็น ผู้เช่า โจทก์ ไม่มีสิทธิ ใด ๆ ใน สถานที่ เช่า ฉะนั้น ที่ ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ให้ ศาลชั้นต้นรับคำ ให้การ ของ จำเลยร่วม ไว้ พิจารณา จึง ชอบแล้ว ฎีกา โจทก์ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share