คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1015/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

เช็คพิพาทเป็นเช็คที่สั่งจ่ายให้แก่บริษัท พ. หรือผู้ถือแม้จะมีการขีดคร่อมแต่มิได้ระบุห้ามโอน จึงโอนกันได้ด้วยการส่งมอบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์พัฒนาเงินทุน จำกัดนำเช็ค 7 ฉบับ ซึ่งจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายมาขายลดแลกเงินสดไปจากโจทก์เมื่อเช็คถึงกำหนดธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ขอให้จำเลยชำระเงินตามเช็คฉบับละ 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันเรียกเก็บเงินไม่ได้จนกว่าจะชำระเงินเสร็จแก่โจทก์จำเลยให้การว่า โจทก์ซื้อลดเช็คทั้ง 7 ฉบับด้วยการโอนที่ไม่สุจริตโดยคบคิดกับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์พัฒนาเงินทุน จำกัด ฉ้อฉลจำเลยขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 700,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900วรรคแรกบัญญัติว่า “บุคคลผู้ลงลายมือชื่อของตนในตั๋วเงินย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในตั๋วเงินนั้น” และตามมาตรา 916 ก็บัญญัติไว้ว่า”บุคคลทั้งหลายผู้ถูกฟ้องในมูลตั๋วแลกเงินหาอาจจะต่อสู้ผู้ทรงด้วยข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกัน เฉพาะบุคคลระหว่างตนกับผู้สั่งจ่ายหรือกับผู้ทรงคนก่อน ๆ นั้นได้ไม่ เว้นแต่การโอนจะได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉล” ซึ่งตามมาตรา 989 ให้ยกมาบังคับในเรื่องเช็คด้วย ดังนั้นจำเลยจะยกข้อต่อสู้ว่า จำเลยได้ชำระหนี้ให้แก่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์พัฒนาเงินทุน จำกัด ที่จำเลยนำเช็คพิพาทไปประกันเงินกู้ไว้มายันโจทก์ผู้ทรงเช็คพิพาทไม่ได้เว้นแต่จำเลยจะนำสืบได้ว่า โจทก์รับโอนเช็คพิพาทมาด้วยการคบคิดกันฉ้อฉลพยานหลักฐานของจำเลยตามที่นำสืบมา คงรับฟังได้แต่เพียงว่าบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์พัฒนาเงินทุน จำกัด ตกลงกับจำเลยว่าจะคืนเช็คพิพาทให้แก่จำเลย เนื่องจากหนี้สินที่เช็คพิพาทเป็นประกันไว้ได้ระงับแล้ว ไม่ปรากฏว่าโจทก์ทราบข้อเท็จจริงดังกล่าว และเป็นข้อต่อสู้ที่เป็นความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยกับผู้ทรงคนก่อน เช็คพิพาทเป็นเช็คที่สั่งจ่ายให้แก่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์พัฒนาเงินทุน จำกัด หรือผู้ถือ ถึงแม้ว่าจะมีการขีดคร่อมแต่มิได้ระบุห้ามโอน จึงโอนกันได้ด้วยการสลักหลังและส่งมอบจะให้โจทก์ทราบได้อย่างไรว่าจำเลยได้ใช้เช็คพิพาทเป็นหลักประกันในการชำระหนี้ระหว่างจำเลยกับผู้ทรงคนก่อน จำเลยนำสืบไม่ได้ว่าโจทก์รับเช็คพิพาทไว้ด้วยการคบคิดกันฉ้อฉล จำเลยจึงต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คพิพาทที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามา ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share