แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องเรียกที่นา กระบือ และเงินที่โจทก์ทดรองจ่ายไป รวมกันทั้งสิ้นเป็นเงิน 3,800 บาท และขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่นาพิพาทเป็นของโจทก์ คำขอนอกนั้นให้ยก จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ว่านาพิพาทเป็นของจำเลย ศาลอุทธรณ์ฟังว่านาพิพาทเป็นของจำเลย จึงพิพากษาแก้ ให้ยกคำขอของโจทก์ที่เกี่ยวกับนาพิพาทด้วย กรณีเช่นนี้ถือว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้มาก ไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าที่นาพิพาทและกระบือ ๓ ตัว ราคารวมกัน ๑,๘๐๐ บาท เป็นของโจทก์ ให้ขับไล่จำเลยกับบริวารออกไปจากนาพิพาท และให้จำเลยส่งกระบือ ๓ ตัวให้โจทก์ กับเรียกเงินที่โจทก์ได้จ่ายทดลองไป ๒,๐๐๐ บาทด้วย
จำเลยต่อสู้ว่า นาพิพาทเป็นของจำเลยโจทก์ไม่เคยจ่ายเงินทดลองให้จำเลย
ศาลชั้นต้นฟังว่า นาพิพาทเป็นของโจทก์ให้จำเลยออกไป ห้ามเกี่ยวข้อง คำขอนอกนั้นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์ว่านาพิพาทเป็นของจำเลย
ศาลอุทธรณ์ฟังว่านาพิพาทเป็นของจำเลยจึงพิพากษาแก้ ให้ยกคำขอของโจทก์ที่เกี่ยวกับนาพิพาทด้วย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นมาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้ แล้วฟังข้อเท็จจริงว่านาพิพาทเป็นของจำเลย พิพากษายืน