แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
การเปลี่ยนตัวบุคคลซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดการสมาคมต้องแจ้งแก่นายทะเบียนเพื่อจดทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้เปลี่ยนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1284 แม้โจทก์ที่ 2 ได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมของโจทก์ที่ 1 แต่ก็ยังไม่ได้มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงให้โจทก์ที่ 2 เป็นนายกสมาคมของโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 จึงไม่ใช่ผู้จัดการหรือผู้แทนอื่น ๆ ของโจทก์ที่ 1 และแม้โจทก์ที่ 2 จะเป็นสมาชิกของโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2ก็ไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 ในฐานะสมาชิกสมาคมโจทก์ที่ 1 ไม่ใช่ผู้เสียหายในความผิดที่กระทำต่อสมาคมโจทก์ที่ 1 จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีในความผิด ดังกล่าวในนามของตนเอง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172,264, 265, 267, 268, 326, 328, 90 และ 91 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาโจทก์ข้อ 2, ข้อ 3, ข้อ 4 ส่วนข้ออื่นเป็นปัญหาข้อเท็จจริงไม่รับ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในข้อหาแจ้งความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172, 267ข้อหาปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264, 265, 268 และข้อหาหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326, 328 แต่ข้อหาหมิ่นประมาทยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว คดีคงขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลฎีกาเฉพาะข้อหาแจ้งความเท็จปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติได้ว่าโจทก์ที่ 1 จดทะเบียนเป็นสมาคมและเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายโจทก์ที่ 2 เป็นสมาชิกของโจทก์ที่ 1 และเพิ่งได้รับเลือกตั้งโดยที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีของโจทก์ที่ 1 ให้เป็นนายกสมาคมของโจทก์ที่ 1 ต่อจากนายณรงค์ เสียงสุคนธ์ ซึ่งเป็นนายกสมาคมคนก่อนของโจทก์ที่ 1 แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงนายกสมาคมคดีมีปัญหาจะต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ทั้งสองว่า โจทก์ที่ 2 ในฐานะนายกสมาคมหรือในฐานะสมาชิกของโจทก์ที่ 1 มีอำนาจฟ้องคดีแทนโจทก์ที่ 1 ได้หรือไม่ เห็นว่าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 5 บัญญัติว่า บุคคลเหล่านี้จัดการแทนผู้เสียหายได้ ฯลฯ
(3) ผู้จัดการหรือผู้แทนอื่น ๆ ของนิติบุคคล เฉพาะความผิดซึ่งกระทำลงแก่นิติบุคคลนั้น
และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1284 บัญญัติว่าการเปลี่ยนตัวบุคคลซึ่งได้รับมอบหมายเป็นผู้จัดการสมาคมนั้นต้องแจ้งแก่นายทะเบียนเพื่อจดทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้เปลี่ยน ดังนี้ แม้โจทก์ที่ 2 ได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมของโจทก์ที่ 1 แต่ปรากฏว่ายังไม่ได้มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงให้โจทก์ที่ 2 เป็นนายกสมาคมของโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 จึงไม่ใช่ผู้จัดการหรือผู้แทนอื่น ๆ ของโจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคล และแม้โจทก์ที่ 2 จะเป็นสมาชิกของโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 ก็ไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนโจทก์ที่ 1 ส่วนที่โจทก์ทั้งสองฎีกาว่า โจทก์ที่ 2ฟ้องจำเลยเป็นความผิดต่อส่วนตัวด้วยนั้น เห็นว่า โจทก์ที่ 2 ในฐานะสมาชิกสมาคมย่อมไม่ใช่ผู้เสียหาย ในความผิดที่กระทำต่อสมาคมโจทก์ที่ 2 จึงไม่มีอำนาจฟ้องเช่นเดียวกัน เมื่อโจทก์ที่ 2ไม่มีอำนาจฟ้องในฐานะนายกสมาคมโจทก์ที่ 1 และในฐานะสมาชิกของโจทก์ที่ 1 แล้ว ไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของโจทก์ทั้งสองในข้ออื่นต่อไป ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”
พิพากษายืน