คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1014/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

ที่ดินที่โจทก์ยกให้จำเลยโดยเสน่หาเป็นที่ดินมื่อเปล่าซึ่งโจทก์มีเพียงสิทธิครอบครองเมื่อโจทก์ยกให้จำเลยจึงเป็นการสละเจตนาครอบครองการครอบครองของโจทก์ผู้ให้สิ้นสุดลงจำเลยผู้รับให้ย่อมได้ไปซึ่งสิทธิครอบครองแต่โจทก์มีสิทธิเรียกที่ดินคืนได้เมื่อจำเลยประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้. ข้อที่ว่าจำเลยไม่ช่วยเหลือเลี้ยงดูโจทก์นั้นเมื่อไม่ได้ความว่าโจทก์อยู่ในฐานะยากไร้เพียงแต่ยากจนลงเพราะชราทำมาหากินไม่ค่อยไหวเท่านั้นแม้จำเลยไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดูโจทก์ก็ยังถือไม่ได้ว่าประพฤติเนรคุณต่อโจทก์. จำเลยด่าโจทก์ว่า’อ้ายชาติหมาหัวหงอกเหมือนขนหมาแล้วหน้าด้านเหมือนถนนลาดยาง’ด่านางอุ่นภรรยาโจทก์ว่า’อีสัตว์อีเหี้ยอีแก่มึงไม่ต้องมาพูดกับกู’และยังกล่าวหาโจทก์ว่าจะเอาหลานสาวทำเป็นเมียคำด่าดังกล่าวเป็นคำหยาบแสดงถึงความดูหมิ่นเหยียดหยามถือว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์ผู้ให้อย่างร้ายแรงโจทก์เรียกถอนคืนการให้ได้. จำเลยกับบุตรสาวของโจทก์แต่งงานกันมาเป็นเวลานานแล้วโจทก์เพิ่งยกที่ดินให้จำเลยและภรรยาในภายหลังในขณะที่จำเลยและภรรยามีอาชีพและครอบครัวเป็นหลักฐานไม่อยู่ในสภาพที่โจทก์ผู้เป็นบิดามีหน้าที่ตามธรรมจรรยาที่จะต้องอุปการะเลี้ยงดูและที่ดินก็มีราคาสูงจึงมิใช่เป็นการให้เนื่องในการสมรสโดยหน้าที่ธรรมจรรยา จำเลยอ้างว่าได้จ่ายเงิน500บาทเป็นค่าที่ดินให้โจทก์แต่จำเลยมิได้ยกขึ้นเป็นประเด็นต่อสู้ไว้ในคำให้การจึงไม่เป็นเรื่องที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ ยก ที่ดิน ตาม หนังสือ รับรอง การ ทำ ประโยชน์เลขที่ 194 จำนวน 1 แปลง ให้ แก่ จำเลย ซึ่ง เป็น บุตรเขย โดย เสน่หาต่อมา โจทก์ ยากจน ลง ไม่ มี เงิน ค่าใช้จ่าย ใน การ ดำรงชีพ จำเลยไม่ ยอม อุปการะ เลี้ยงดู โจทก์ กล่าวหา ว่า โจทก์ บุกรุก ที่ดินจำเลย และ ด่า ว่า โจทก์ ต่อหน้า บุคคล อื่น กล่าว คำหยาบ ดูหมิ่นโจทก์ อีก มาก พฤติการณ์ ของ จำเลย เป็น การ ประพฤติ เนรคุณ ต่อ โจทก์หมิ่นประมาท โจทก์ อย่าง ร้ายแรง ทำ ให้ โจทก์ เสีย ชื่อเสียง และบอก ปัด ไม่ ยอม ให้ สิ่ง ของ เลี้ยง ชีวิต แก่ โจทก์ ใน เวลา ที่โจทก์ ยาก ไร้ ซึ่ง จำเลย สามารถ จะ ให้ ได้ ขอ ให้ พิพากษา ให้ จำเลยจด ทะเบียน คืน ที่ดิน น.ส. 3 เลขที่ 194 ให้ แก่ โจทก์
จำเลย ให้การ ว่า โจทก์ ยก ที่ดิน ให้ จำเลย และ บุตร สาว โจทก์เนื่อง ใน การ สมรส โดย หน้าที่ ธรรมจรรยา จะ ถอน คืน ไม่ ได้ โจทก์ยก ที่ดิน ให้ จำเลย โดย สละ การ ครอบครอง ไม่ จด ทะเบียน การ ให้ โจทก์ไม่ มี สิทธิ ฟ้อง เรียก คืน การ ให้ โจทก์ ไม่ เป็น ผู้ ยากไร้จำเลย ไม่ ได้ กล่าว คำหยาบ ดูหมิ่น โจทก์ ขอ ให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลย จด ทะเบียน คืน ที่ดิน ตาม หนังสือรับรอง การ ทำ ประโยชน์ เลขที่ 194 ให้ แก่ โจทก์ จำนวน เนื้อที่ กึ่งหนึ่ง
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืน
จำเลย ฎีกา วินิจฉัย ว่า ‘…ได้ พิเคราะห์ พยาน หลักฐาน โจทก์ จำเลยโดย ตลอด แล้ว ข้อเท็จจริง ฟัง ได้ ว่า ที่ดิน โจทก์ ฟ้อง เรียก คืนเป็น ที่ดิน ที่ ยัง ไม่ มี หนังสือ สำคัญ แสดง กรรมสิทธิ์ เดิม เป็นของ โจทก์ โจทก์ ยก ให้ จำเลย ซึ่ง เป็น บุตรเขย โดย ไม่ ได้ ทำ เป็นหนังสือ และ จด ทะเบียน ต่อ พนักงาน เจ้าหน้าที่ ปัญหา มี ว่า โจทก์จะ เรียก ถอนคืน การ ให้ เพราะ เหตุ ที่ จำเลย ประพฤติ เนรคุณ ได้หรือ ไม่ การ ยก ให้ ที่ดิน ซึ่ง เป็น อสังหาริมทรัพย์ ต้อง ทำ เป็นหนังสือ และ จด ทะเบียน ต่อ พนักงาน เจ้าหน้าที่ จึง จะ สมบูรณ์ ตามกฎหมาย แต่ เนื่องจาก เป็น ที่ดิน มือ เปล่า โจทก์ เจ้าของ เดิม มีเพียง สิทธิ ครอบครอง เมื่อ โจทก์ ยก ให้ จำเลย ย่อม ถือ ได้ ว่าโจทก์ ได้ สละ เจตนา ครอบครอง การ ครอบครอง ของ โจทก์ ผู้ให้ สิ้นสุด ลง จำเลย ผู้ รับ ให้ ย่อม ได้ ไป ซึ่ง การ ครอบครอง จำเลย จึง ได้ สิทธิครอบครอง ใน ที่ดิน ที่ โจทก์ ยก ให้ และ โจทก์ ผู้ ให้ มี สิทธิ เรียกที่ดิน คืน ได้ เมื่อ จำเลย ได้ ประพฤติ เนรคุณ ต่อ โจทก์ ตาม ที่กฎหมาย กำหนด ไว้
ปัญหา ต่อไป มี ว่า จำเลย ได้ ประพฤติ เนรคุณ ต่อ โจทก์ หรือ ไม่ การประพฤติ เนรคุณ ที่ โจทก์ อ้าง มา ใน ฟ้อง คือ จำเลย ไม่ ช่วยเหลือเลี้ยงดู โจทก์ ซึ่ง มี ฐานะ ยากจน และ ได้ ด่า ว่า หมิ่นประมาท โจทก์อย่าง ร้ายแรง โจทก์ นาง อุ่น ภรรยา นางสาว ทองเปรม พยาน โจทก์ เบิกความว่า โจทก์ มี อายุ มาก แล้ว ทำกิน ไม่ไหว ฐานะ ยากจน ลง ต้อง อาศัยบุตร หลาน ช่วย ส่งเสีย เลี้ยงดู ใน ชั้นแรก จำเลย เคย ส่งเสียเลี้ยงดู บ้าง แต่ เมื่อ โจทก์ ยก ที่ดิน ให้ นางสาว ทองเปรม ผู้ เป็นหลาน จำเลย ไม่ พอใจ เลิก ส่งเสีย เลี้ยงดู โจทก์ และ ภรรยา ต่อมา เมื่อโจทก์ กั้น รั้ว ลวดหนาม ระหว่าง ที่ดิน ที่ ยก ให้ นางสาว ทองเปรมกับ ที่ดิน ที่ ยก ให้ จำเลย จำเลย ได้ ด่า โจทก์ ว่า ‘อ้าย ชาติหมาหัวหงอก เหมือน ขนหมา แล้ว หน้าด้าน เหมือน ถนน ลาดยาง’ ด่า นาง อุ่นภรรยาโจทก์ ว่า ‘อีสัตว์ อีเหี้ย อีแก่ มึง ไม่ ต้อง มา พูด กับ กู’ และกล่าวหา โจทก์ ว่า จะ เอา นางสาว ทองเปรม ทำ เป็น เมีย พิจารณา แล้วเห็น ว่า ข้อหา ว่า จำเลย ไม่ ช่วยเหลือ เลี้ยงดู โจทก์ นั้น ยัง ไม่ได้ ความ ว่า โจทก์ อยู่ ใน ฐานะ ยากไร้ เพียง แต่ มี ความ ยากจน ลงเพราะ ชรา ทำมาหากิน ไม่ ค่อย ไหว เท่านั้น แม้ จำเลย ไม่ ได้ ส่งเสียเลี้ยงดู ก็ ยัง ถือ ไม่ ได้ ว่า ประพฤติ เนรคุณ ต่อ โจทก์ ส่วน ข้อหาว่า จำเลย ได้ ด่า ว่า หมิ่นประมาท โจทก์ อย่าง ร้ายแรง นั้น โจทก์นาง อุ่น และ นางสาว ทองเปรม เบิกความ ยืนยัน ว่า จำเลย ได้ ด่า ว่าโจทก์ ด้วย ถ้อยคำ ดังกล่าว นาย เทอดชน ถนอมวงศ์ พยาน โจทก์ อีก คนหนึ่งเบิกความ ว่า เมื่อ พยาน ไป สอบ เขต ที่ดิน ที่ โจทก์ ทำ รั้ว ลวดหนามกั้น โจทก์ จำเลย ทะเลาะ วิวาท กัน จน ไม่ สามารถ รังวัด สอบเขต ได้เชื่อ ได้ ว่า จำเลย ได้ ด่า ว่า โจทก์ จริง คำด่า ดังกล่าว เป็นคำหยาบ แสดง ถึง ความ ดูหมิ่น เหยียดหยาม พยานหลักฐาน โจทก์ ฟัง ได้ว่า จำเลย หมิ่นประมาท โจทก์ ผู้ให้ อย่าง ร้ายแรง โจทก์ เรียก ถอนคืนการให้ ได้ ที่ จำเลย นำสืบ ว่า โจทก์ ยก ที่ดิน ให้ จำเลย และ ภรรยาเนื่อง ใน การ สมรส โดย หน้าที่ ธรรมจรรยา และ จำเลย ได้ ให้ เงิน500 บาท เป็น ค่า ตอบแทน นั้น ได้ความ ว่า จำเลย และ นาง อ๋อง ภรรยาแต่งงาน กัน มา นาน ประมาณ 30 ปี ที่ดิน ที่ เรียก คืน โจทก์ เพิ่ง ยกให้ ใน ภายหลัง ใน ขณะ ที่ จำเลย และ ภรรยา มี อาชีพ และ ครอบครัว เป็นหลักฐาน ไม่ อยู่ ใน สภาพ ที่ โจทก์ ผู้ เป็น บิดา มี หน้าที่ ตามธรรมจรรยา ที่ จะ ต้อง อุปการะ เลี้ยงดู ทั้ง ที่ดิน ที่ ยก ให้ ก็ มีราคา สูง จึง มิใช่ เป็น การ ให้ เนื่อง ใน การ สมรส โดย หน้าที่ธรรมจรรยา เรื่อง จ่าย เงิน 500 บาท ค่า ที่ดิน ให้ โจทก์ นั้น จำเลยไม่ ได้ ยก ขึ้น ต่อสู้ ไว้ ใน คำให้การ ไม่ เป็น เรื่อง ที่ ได้ ยกขึ้น ว่ากล่าว กัน มา แล้ว ใน ศาลชั้นต้น จึง ไม่ วินิจฉัย พยานหลักฐานจำเลย ไม่ มี น้ำหนัก พอ จะ หักล้าง พยาน โจทก์ ได้ ที่ ศาลอุทธรณ์พิพากษา ยืน ตาม ศาลชั้นต้น ชอบ แล้ว ฎีกา จำเลย ฟัง ไม่ ขึ้น
พิพากษา ยืน ให้ จำเลย ใช้ ค่า ทนายความ ชั้น ฎีกา 500 บาท แทน โจทก์’

Share