คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1013/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ทำสัญญายินยอมไห้จำเลยโอนกัมสิทธิไนที่ดินแต่ไนสัญญานั้นมิได้มีเงื่อนไขระบุไห้โจทมีสิทธิ์เก็บกินไนที่ดินนั้นย่อมถือได้ว่าโจทไม่มีการได้มาซึ่งทรัพย์สิทธินั้นโดยบริบูรน์ ,สิทธิเก็บกินย่อมเปนทรัพย์สิทธิอันจะต้องจดทเบียนตามกดหมาย

ย่อยาว

โจทฟ้องขอไห้สาลบังคับจำเลยส่งโฉนด ๒ แปลงไห้โจทรักสาไว้เพื่อทำกิน หย่าไห้จำเลยขัดขวางไนการที่โจทจัดการหารประโยชน์ทำกินไนที่ดินรายนี้ต่อไป กัมขอไห้ห้ามมิไห้จำเลยขายทั้งนี้ก็โดยมีข้อสัญญาตกลงกันว่า เมื่อโจทโอนกัมสิทธิ์ไห้แก่จำเลยแล้ว ต้องยอมไห้โจททำกินไปตลอดชีพ และจะต้องไม่โอนกัมสิทธิหรือจำนองนานี้ก่อนได้รับอนุญาตจากโจท บัดนี้จำเลยได้ลอบเอาโฉนดไปโอนเปนกัมสิทธิของจำเลยและพยายามจะขายไห้ผู้มีชื่อด้วย โจทจึงนำคดีขึ้นสู่สาล
ชั้นพิจารนาโจทรับว่าได้ทำหนังสือยอมไห้จำเลยโอนกัมสิทธิ์ที่นาจิง และจำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทนี้ไม่ได้จดทเบียนสิทธิเก็บกิน โจทไม่มีสิทธิฟ้อง
สาลชั้นต้นพิจารนาแล้วเห็นว่า ข้อสัญญาไช้บังคับระหว่างโจทจำเลยได้เพราะไม่เกี่ยวกับบุคคลพายนอก แม้มิได้จดทเบียนการไห้อาสัยเก็บกินก็ดีย่อมบังคับจำเลยได้ จึงพิพากสาไห้โจทชนะคดี
จำเลยอุธรน์ สาลอุธรน์พิพากสากลับไห้ยกฟ้องโจท
โจทดีกา สาลดีกาเห็นว่า ข้อที่โจทกล่าวไนฟ้องว่าจำเลยไช้อุบายลอบเอาโฉนดไปโอนนั้น ข้อเท็ดจิงกลับได้ความว่า โอนไปโดยความยินยอมของโจท ส่วนเงื่อนไขที่ว่าไห้โจทมีสิทธิเก็บกินก็หามีระบุไว้ไนการโอนนั้นไม่ ดังนี้ โจทก็ไม่มีการได้มาซึ่งทรัพย์สิทธิโดยบริบูรน์ตาม ป.พ.พ.ม.๑๒๙๙ วัด ๑ ส่วน ม.๑๓๓๘ ที่โจทอ้างเปนเรื่องจำกัดสิทธิ และ ม.๑๔๑๗ กล่าวถึงผู้ซงสิทธิเก็บกินจะยกมาไช้ไนคดีนี้ไม่ได้ จึงพิพากสายืนตาม

Share