คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยรับราชการเป็นทหารบกยศจ่าสิบเอก รับเงินเดือนอัตรา7,370 บาท และมีสิทธิในที่ดินซึ่งได้มาจากการจัดสรรของกองทัพบกราคาประมาณ 20,000 บาท แม้ว่าจำเลยจะเป็นหนี้โจทก์จำนวน55,668 บาท และเป็นหนี้บุคคลอื่นอีก 10,000 บาทเศษ แต่เมื่อได้พิเคราะห์ถึงสถานะของจำเลยแล้ว จำเลยอยู่ในฐานะที่จะขวนขวายชำระหนี้โจทก์ได้ กรณีมีเหตุที่ยังไม่ควรให้จำเลยล้มละลาย ตามพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 14

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดและพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายต่อไป
จำเลยให้การว่า จำเลยมีอาชีพรับราชการทหารได้รับเงินเดือนเดือนละ 7,360 บาท และมีทรัพย์สินอื่นอีก จำเลยเป็นหนี้โจทก์ประมาณ30,000 บาท เท่านั้น และโจทก์ไม่เคยติดต่อทวงถามให้จำเลยชำระหนี้จำเลยไม่เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่าโจทก์มอบอำนาจให้นายบังเอิญฟ้องคดีนี้ ปรากฏตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.1 จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1097/2533 ของศาลชั้นต้น คำนวณถึงวันที่ 8ตุลาคม 2533 เป็นเงิน 75,935 บาท โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยออกขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์จำนวน 20,267 บาทคงเหลือยอดหนี้จำนวน 55,668 บาท ปรากฏตามสัญญาประนีประนอมยอมความคำพิพากษาตามยอมและบัญชีแสดงการรับจ่ายครั้งที่ 1 เอกสารหมาย จ.2ถึง จ.4 นอกจากเป็นหนี้โจทก์ดังกล่าวแล้ว จำเลยยังเป็นหนี้บุคคลอื่นอีก 10,000 บาทเศษ คดีมีปัญหาตามฎีกาของโจทก์ว่าสมควรให้จำเลยล้มละลายหรือไม่
พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงได้ความจากคำเบิกความของจำเลยประกอบหนังสือรับรองที่ กห 0482.2/710 ลงวันที่ 30 เมษายน 2534เอกสารหมาย ล.1 ว่า จำเลยรับราชการเป็นทหารบกยศจ่าสิบเอกตำแหน่งนายสิบยุทธการกองร้อยกองบังคับการและบริการ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 23 รับเงินเดือนระดับ ป.2 ชั้น 12 อัตรา 7,370 บาท และจำเลยยังเบิกความยืนยันว่าจำเลยมีที่ดินที่ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอปักธงชัยจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งซื้อจากการจัดสรรของกองทัพบก เมื่อปี 2532อีกประมาณ 200 ตารางวา ราคาประมาณ 20,000 บาท โดยยังไม่ได้แบ่งแยกโฉนด ศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยมีสิทธิในที่ดินดังกล่าวจริงถ้าหากไม่เป็นความจริงจำเลยคงไม่กล้ายืนยันเช่นนั้น เพราะสามารถตรวจสอบจากกองทัพบกได้โดยไม่ยาก เห็นว่า แม้จำเลยจะเป็นหนี้โจทก์จำนวน55,668 บาท กับเป็นหนี้บุคคลอื่นอีก 10,000 บาทเศษ เมื่อได้พิเคราะห์สถานะของจำเลยว่าจำเลยรับราชการเป็นทหารบกยศจ่าสิบเอกได้รับเงินเดือนเมื่อปี 2534 เดือนละ 7,370 บาท กับมีสิทธิในที่ดินอยู่บ้าง จำเลยอยู่ในฐานะที่สามารถจะขวนขวายชำระหนี้โจทก์ได้กรณีมีเหตุที่ยังไม่สมควรให้จำเลยล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 14 ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้วฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share