คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1003/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ใดมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองเกินกว่า 0.20 เมตรลูกบาศก์โดยได้รับจำหน่ายมาจากโรงงานแปรรูปไม้หรือโรงค้าไม้แปรรูปอีกทอดหนึ่งทอดเดียวเท่านั้นโดยมีหนังสือกำกับไม้แปรรรูปนั้นแล้วไม่จำต้องไปขออนุญาตมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองอีกครั้งหนึ่ง
( ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2498 )

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องว่า จำเลยได้สมคบกันมีไม้สักแปรรูปจำนวน ๒๕๖ แผ่นเนื้อไม้ .๕๓ เมตรลูกบาศก์ ซึ่งจำเลยได้มาและมีไว้เนื่องจากการกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษ
จำเลยที่ ๑ ให้การว่าไม้ของกลางเป็นของจำเลยที่ ๒ มาฝากไว้ จำเลยที่ ๒ รับว่าเป็นไม้ของจำเลยซึ่งซื้อมาจากโรงงานแปรรูปไม้และค้าไม้แปรรูป มีหนังสือกำกับไม้แปรรูปแล้ว
ศาลชั้นต้นไม่เชื่อว่าไม้ของกลางเป็นไม้รายเดียวกับที่ซื้อมา พิพากษาปรับคนละ ๒๐๐ บาท ริบไม้ของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าไม้ของกลางเป็นส่วนหนึ่งของไม้ที่ซื้อมา แต่หนังสือกำกับไม้แปรรูปไม่ใช่หนังสืออนุญาตให้มีไม้แปรรูป จำเลยจึงไม่พ้นปิด พิพากษายืน
จำเลยฎีกาข้อกฎหมายว่า (๑) หนังสือกำกับไม้แปรรูปมีผลคุ้มครองจำเลยและ (๒) ไม้ของกลางไม่ควรถูกริบตามกฎหมาย
ศาลฎีกาได้พิจารณา พ.ร.บ.ป่าไม้ ๒๔๘๔ ม.๔๘,๔๙, และกฎกระทรวงเกษตรฯ (ฉบับที่ ๒) ข้อ ๖. ประกอบกันแล้วเห็นว่า ผู้ร้บจำหน่ายหรือนำไม้เคลื่อนที่จากสถานที่ทำการแปรรูปไม้หรือโรงค้าไม้แปรรูปอีกทอดหนึ่งทอดเดียวนี้ ถ้ามีหนังสือกำกับไม้แล้วก็ไม่ต้องไปขออนุญาตมีไม้แปรรูปอีก จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ คืนไม้ของกลางให้จำเลย

Share