คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 เป็นเรื่องกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลจะลงโทษผู้กระทำผิดทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป หรือจะลงโทษเฉพาะกระทงที่หนักที่สุดก็ได้
จำเลยฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพยายามฆ่าผู้เสียหาย ถือว่าจำเลยกระทำผิดหลายกรรม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกที่หลบหนีได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายและผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่าและไตร่ตรองไว้ก่อน ผู้ตายได้ถึงแก่ความตายในวันนั้น และผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘,๘๓,๒๘๘,๘๐,๙๑,๒๘๙
จำเลยให้การปฏิเสธอ้างฐานที่อยู่
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ ประกอบมาตรา ๘๐ และ ๘๓ ซึ่งเป็นกรรมเดียวต่อเนื่องกันแต่ผิดกฎหมายหลายบทให้ลงโทษบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ คือ ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙,๘๓ ให้ลงโทษประหารชีวิต คำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๕๒(๑) , ๗๘ ให้จำคุกไว้ตลอดชีวิต บทมาตราอื่นที่โจทก์ขอนอกจากนี้ให้ยก ริบหัวกระสุนปืนของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยไม่มีสาเหตุกับนายเชาว์ ดัดเจริญ คนขับรถเมื่อจำเลยยิงนางง่วนซินแล้วก็เลยยิงนายเชาว์เสียด้วย ที่จำเลยยิงนายเชาว์จึงไม่อยู่ในข่ายไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙(๔) พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙,๒๘๘,๘๐,๘๓ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยได้ยิงผู้ตายเพราะโกรธแค้นที่ผู้ตายไล่ออกจากงานและยิงผู้เสียหายเพื่อจะปิดปาก
แต่ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำผิดในกรรมเดียวซึ่งต่อเนื่องกัน แต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ นั้น ความจริงประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ เป็นเรื่องกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลจะลงโทษผู้กระทำผิดทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป หรือจะลงโทษเฉพาะกระทงที่หนักที่สุดก็ได้ คดีนี้จำเลยกระทำผิดหลายกรรม คือฐานฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนกรรมหนึ่ง และฐานพยายามฆ่านายเชาว์ผู้เสียหายอีกกรรมหนึ่ง แต่ที่ศาลลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙,๘๓ อันเป็นกระทบที่หนักที่สุดตามมาตรา ๙๑ นั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share