คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามปกติโจทก์ทำงานประจำที่บริษัทจำกัดแห่งหนึ่ง เวลาว่างงานเคยเป็นนายหน้า ติดต่อเปิดเครดิตให้บริษัทอื่น ๆ บ้าง เคยเป็นนายหน้าในการขายแร่ให้จำเลยบ้าง ไม่ได้ความว่าเป็นอาชีพปกติหรือไม่ คงฟังได้เพียงว่าเคยปฏิบัติ ในเวลาว่างงาน ดังนี้ ยังไม่พอที่จะวินิจฉัยว่าโจทก์เป็นผู้ค้าในการดูแลกิจการของผู้อื่นหรือรับทำการงานต่าง ๆ ตาม ความหมายแห่ง ป.ม.แพ่งฯมาตรา 165 (7).

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่านายหน้าจากจำเลยเป็นเงิน ๑๑๗๓๓๐ บาทกับดอกเบี้ย
จำเลยปฏิเสธว่า มิได้ตกลงจ้างโจทก์เป็นนายหน้า
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงินให้โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คดีขาดอายุความตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๑๖๕(๗) พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทกฎีกา
ศาลฎีกาคงฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้ตกลงให้โจทก์เป็นนายหน้าขอเปิดเครดิตเงินปอนด์รายนี้จริง ส่วนข้อที่ว่าโจทก์ มุ่งทำเป็นอาชีพ อันถือได้ว่าเป็นผู้ค้าตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๑๖๕ (๗) หรือไม่นั้น ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ตามปกติโจทก์ทำ งานประจำที่บริษัทธนบุรี พาณิชจำกัด เวลาว่างงานเคยเป็นนายหน้าติดต่อเปิดเครดิตให้บริษัทอาทรพาณิชย์บ้าง บริษัท วิรุฬหัตถกิจบ้าง เคยเป็นนายหน้าในการขายแร่ให้จำเลยบ้าง ไม่ได้ความว่าเป็นอาชีพปกติหรือไม่ คงฟังได้เพียงว่า เคยปฏิบัติในเวลาว่างงาน ศาลฎีกาจึงเห็นว่า จ้อเท็จจริงเท่าที่ปรากฏยังไม่พอที่จะวินิจฉัยว่าเป็นผู้ค้าในการดูแลกิจการ ของผู้อื่นหรือรับทำการงานต่าง ๆ ตามความหมายแห่ง ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๑๖๕(๗) คดีของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความพิพากษา กลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

Share