แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่นายจ้างยอมให้ลูกจ้างเชิดตัวลูกจ้างออกแสดงเป็นตัวแทนของนายจ้างในการออกตั๋วแลกเงินเพื่อขายให้บุคคลภายนอกนั้น กรณีเช่นนี้ไม่จำต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือดังเช่นการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนโดยตรง และเมื่อหาตัวผู้จ่ายเงินตามตั๋วแลกเงินนั้นไม่ได้ ผู้ทรงย่อมมีสิทธิไล่เบี้ยจากนายจ้างได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า  จำเลยที่ ๒ เป็นตัวแทนหรือตัวแทนเชิดของจำเลยที่ ๑ เคยติดต่อขายตั๋วแลกเงินกับโจทก์  จำเลยที่ ๒ ได้ขายตั๋วแลกเงิน ๒  ฉบับ  เป็นเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท  เพื่อธุรกิจและประโยชน์ของจำเลยที่ ๑   ต่อมาโจทก์ไปเก็บเงินตามตั๋วแลกเงินจากผู้จ่าย  แต่ไม่ได้ทวงถามจำเลย  จำเลยเพิกเฉย  ขอให้จำเลยทั้งสองชำระเงินตามตั๋วแลกเงิน ๕๐,๐๐๐ บาทกับดอกเบี้ยร้อยละ ๕ ต่อปี
จำเลยที่ ๒ ให้การว่าเป็นความจริงตามฟ้อง  จำเลยที่ ๒ ทำงานแทนจำเลยที่ ๑ ไม่ต้องรับผิด
จำเลยที่ ๑  ให้การว่าไม่เคยแต่งตั้งจำเลยที่ ๒ เป็นตัวแทน  ไม่เคยประกอบธุรกิจในทางขายหรือจ่ายตั๋วแลกเงิน ฟ้องเคลือบคลุม  โจทก์หมดโอกาสและสิ้นสิทธิพึงไล่เบี้ย  ตั๋วแลกเงินจะต้องทำกันเป็นหนังสือ  การตั้งตัวแทนต้องทำเป็นหนังสือ  เมื่อไม่มีเอกสารการเป็นตัวแทน  โจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ชำระเงินตามฟ้อง  ส่วนจำเลยที่ ๒ ให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๑  อุทธรณ์  ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑  ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า  จำเลยที่ ๑  ยอมให้จำเลยที่ ๒ เชิดตัวเองออกแสดงเป็นตัวแทนของจำเลยที่ ๑ ในการออกตั๋วแลกเงินตามฟ้องขายให้โจทก์  ไม่จำต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือดังเช่นการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนโดยตรง
เมื่อผู้จ่ายเงินตามตั๋วแลกเงินไม่อยู่และพาไม่พบ  โจทก์ไม่สามารถจะเอาชำระเงินจากผู้จ่ายได้  จึงมีสิทธิเอาชำระจากจำเลยที่ ๑
พิพากษายืน

