คำสั่งคำร้องที่ 978/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ทุนทรัพย์พิพาทไม่เกิน200,000 บาท ฎีกาในประเด็นที่ 1 ที่ว่าจำเลยเป็นผู้คุ้มครองดูแลรถยนต์ขณะเกิดเหตุเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลเป็นฎีกาข้อเท็จจริง ต้องห้ามส่วนฎีกาที่ว่าจำเลยในฐานะเจ้าของรถยนต์ย่อมเป็นผู้ร่วมครอบครองดูแลกับผู้เช่าซื้อ ต้องร่วมรับผิดในมูลละเมิดนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ก็ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยสำหรับฎีกาประเด็นข้อ 2 เป็นข้อเท็จจริงที่ต้องอาศัยผลจากการวินิจฉัยประเด็นข้อ 1 เสียก่อน เมื่อประเด็นข้อ 1 ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงแล้ว จึงไม่มีประโยชน์ที่จะฎีกาประเด็นข้อ 2 อีก ไม่รับฎีกาของโจทก์ โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ที่ว่าจำเลยในฐานะเจ้าของรถยนต์ย่อมเป็นผู้ร่วมครอบครองดูแลกับผู้เช่าซื้อ ต้องร่วมกันรับผิดในมูลละเมิดนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ และมีสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ จำเลยไม่ได้รับสำเนาคำร้อง โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ โจทก์เป็นเงิน 5,306 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 5,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระเงินให้โจทก์ครบถ้วน ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว(อันดับ 66) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 67)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ฎีกาโจทก์ที่อ้างว่าจำเลยในฐานะเจ้าของรถยนต์ย่อมเป็นผู้ร่วมครอบครองดูแลกับผู้เช่าซื้อนั้นแม้จะเป็นข้อกฎหมายแต่ก็ไม่ทำให้คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เปลี่ยนไป ข้อกฎหมายดังกล่าวจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันสมควรได้รับการวินิจฉัย ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาโจทก์จึงชอบแล้วให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share