คำสั่งคำร้องที่ 97/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 54 จึงไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยเห็นว่า คดีนี้จำเลยอุทธรณ์ว่าการที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์เป็นการกระทำที่เป็นธรรม เพราะโจทก์ทุจริตต่อหน้าที่และจงใจขัดคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของนายจ้างโดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นอุทธรณ์โต้เถียงว่าการกระทำของจำเลยเป็นการเลิกจ้างโดยเป็นธรรมจึงเป็นอุทธรณ์โต้แย้งการแปลความหมายของตัวบทกฎหมายเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลแรงงานกลางรับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณา
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 43แผ่นที่ 2)
ศาลแรงงานกลางพิพากษา ให้จำเลยจ่ายค่าชดเชย จำนวน 12,000 บาทค่าสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จำนวน 4,000 บาท และค่าเสียหายอีก จำนวน 4,000 บาท รวมเป็นเงิน 20,000 บาท ให้โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของเงิน 20,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าว(อันดับ 37)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 41)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยอุทธรณ์ข้อแรกว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะโจทก์ทุจริตต่อหน้าที่นั้น เป็นอุทธรณ์โต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลางที่วินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าโจทก์มีเจตนาส่อไปในทางไม่สุจริต อันเป็นเหตุให้จำเลยเลิกจ้างโจทก์ จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ที่ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยข้อนี้ชอบแล้ว จำเลยอุทธรณ์ข้อสองว่าจำเลยเรียกให้โจทก์เข้าประชุม แต่โจทก์ไม่เข้าประชุมโดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นการขัดคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลย จำเลยเลิกจ้างโจทก์จึงมิใช่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมนั้น เป็นอุทธรณ์ในข้อกฎหมายจำเลยอุทธรณ์ข้อสามว่า โจทก์ขัดคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลยเป็นกรณีร้ายแรง จำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าเสียหายนั้น เป็นผลสืบเนื่องมาจากอุทธรณ์ของจำเลยข้อสองจึงให้รับอุทธรณ์ข้อสองและข้อสามของจำเลยไว้พิจารณาให้ศาลแรงงานกลางดำเนินการต่อไป

Share