คำสั่งคำร้องที่ 943/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ร่วมทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก 9 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี จึงเป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงโจทก์ร่วมฎีกาขอให้ลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษเป็นการโต้เถียงดุลพินิจของ ศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 ไม่รับฎีกาของโจทก์ร่วม
โจทก์ร่วมทั้งสองเห็นว่า การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำคุกแล้วต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาให้รอการลงโทษไว้หรือในกรณีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้รอการลงโทษจำคุกแล้วต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษจำคุกโดยไม่รอนั้น ถือว่ามิใช่การแก้ไขเพียงเล็กน้อย จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ร่วมทั้งสองไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 87)
ระหว่างพิจารณา นายนิตย์ศรีสว่าง และนางวันเพ็ญ ศรีสว่างผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมศาลชั้นต้นสั่งอนุญาต โดยให้เรียกนายนิตย์ศรีสว่าง เป็นโจทก์ร่วมที่ 1 นางวันเพ็ญ ศรีสว่าง เป็นโจทก์ร่วมที่ 2
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 ประกอบมาตรา 364 ให้จำคุก 1 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสี่ คงจำคุก 9 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รอการลงโทษจำเลยไว้ มีกำหนด 2 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ร่วมทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 84)
โจทก์ร่วมทั้งสองจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 85)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 2 ปี แม้จะรอการลงโทษหรือไม่ก็ตามโจทก์ร่วมทั้งสองย่อมต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 ฎีกาของโจทก์ร่วมทั้งสองเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามบทบัญญัติดังกล่าว ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาชอบแล้วให้ยกคำร้อง

Share