คำสั่งคำร้องที่ 941/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นว่าฎีกาของจำเลยทั้งสองประเด็นเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาข้อ 2 ที่ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้องได้หรือไม่ เพราะเช็คที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นการลอกเช็คเพื่อเป็นการ ค้ำประกันการกู้ยืมเงินระหว่างโจทก์จำเลย ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมายโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฎหลักฐานในสำนวนว่าโจทก์ได้รับสำเนา คำร้องแล้วหรือไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิด อันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วย ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3ลงโทษจำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 118)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 119)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี จึงต้องห้ามฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรคแรก ส่วนฎีกาของจำเลยที่ว่าเช็คที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นการออกเช็คเพื่อค้ำประกันการกู้ยืมเงินระหว่างโจทก์ จำเลย ไม่เป็นความผิดทางอาญา ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมายนั้น เห็นว่า ฎีกาของจำเลยดังกล่าวเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้ว ในศาลชั้นต้นจึงเป็นฎีกาที่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 225ประกอบด้วย มาตรา 195 และไม่มีเหตุสมควรจะวินิจฉัย ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา จำเลยชอบแล้ว ยกคำร้อง

Share