แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้ร้องฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ต้องห้ามฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาของผู้ร้องเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงไม่รับฎีกาผู้ร้อง คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด ผู้ร้องเห็นว่า ฎีกาของผู้ร้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของผู้ร้องไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ผู้คัดค้านทั้งสามยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง ผู้ร้องยื่นคำร้องและแก้ไขเพิ่มเติมคำร้องขอให้ศาล มีคำสั่งแสดงว่าที่ดินเฉพาะส่วนในที่ดินโฉนดเลขที่ 31981 ตำบลดอนทรายอำเภอโพธารามจังหวัดราชบุรี เนื้อที่ประมาณ1 งานเศษ ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องโดยการครอบครองปรปักษ์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ผู้คัดค้านทั้งสาม ยื่นคำคัดค้าน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของ ผู้ร้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน ผู้ร้องฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 67,66) ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 69)
คำสั่ง ผู้ร้องฎีกาว่า ผู้ร้องครอบครองที่ดินพิพาทโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลากว่าสิบปี โดยไม่มี ผู้ใดโต้แย้งคัดค้าน ผู้ร้องย่อมได้ที่ดินพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แล้วนั้น เห็นได้ว่าเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงตามคำวินิจฉัยของ ศาลอุทธรณ์ที่ว่า ผู้ร้องครอบครองที่ดินพิพาทในฐานะผู้อาศัยเท่านั้น ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ยุติและต้องห้ามฎีกาเพื่อสู่การวินิจฉัย ในข้อกฎหมายตามฎีกาของผู้ร้องจึงมีผลอย่างเดียวกับการฎีกา ในข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาผู้ร้องนั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง