คำสั่งคำร้องที่ 929/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นสั่งว่า เมื่อศาลยกคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาเสียทีเดียว โจทก์มีสิทธิเลือกจะยื่นคำขอให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่เพื่ออนุญาตให้นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนยากจน หรือจะใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งนั้นภายใน 7 วันก็ได้แต่เมื่อโจทก์ใช้สิทธิยื่นคำขอให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่เพื่ออนุญาตให้นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนยากจนโดยยื่นเป็นคำร้องฉบับลงวันที่ 18 มิถุนายน 2530 เวลา 9.30 นาฬิกา และศาลมีคำสั่งยกคำร้องแล้ว โจทก์จะกลับมาขอใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งยกคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาอีกไม่ได้ (เทียบนัยแห่งคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1503/2511(ประชุมใหญ่)) ฉะนั้น จึงไม่รับอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์
โจทก์เห็นว่า กรณีที่ศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอให้พิจารณาคำขอใหม่โดยได้ยื่นไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสี่นั้น กฎหมายมิได้บัญญัติไว้ให้เป็นที่สุด และการที่ศาลภาษีอากรกลางสั่งยกคำร้องขอให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่โดยไม่ได้ไต่สวนพยานเพิ่มเติมโจทก์ย่อมอุทธรณ์ได้ มิใช่ว่าโจทก์จะต้องเลือกใช้สิทธิตามวิธีการอย่างหนึ่งอย่างใดดังที่ศาลภาษีอากรกลางได้มีคำสั่งไว้ไม่เพราะโจทก์ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่าง ทั้งยังได้ยื่นอุทธรณ์ไว้ภายในกำหนดของกฎหมายแล้วอีกทั้งข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาฎีกาที่ 1503/2511(ประชุมใหญ่) ตามที่ศาลภาษีอากรกลางกล่าวอ้างนี้ก็ไม่ตรงกับคดีของโจทก์ โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
หมายเหตุ ทนายจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 39)
โจทก์ยื่นคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาโดยอ้างว่า กองมรดกของนายสุจิตรปัตตะโชติ ผู้ตาย ไม่มีทรัพย์สินที่จะนำมาเสียค่าธรรมเนียมศาลได้ เนื่องจากถูกกรมสรรพากร จำเลยที่ 1 มีคำสั่งยึดและอายัดไว้ทั้งหมด และคดีของโจทก์มีมูลที่จะฟ้องและมีทางชนะคดีได้ ขอให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งให้โจทก์ยื่นฟ้องคดีอย่างคนอนาถา
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว เห็นว่ายังมีทรัพย์สินมรดกของผู้ตายอีกหลายรายการที่กรมสรรพากร จำเลยที่ 1 ไม่ได้ยึดและอายัดจึงมิใช่กรณียากจนไม่สามารถเสียค่าธรรมเนียมศาลได้ จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีอย่างคนอนาถาให้ยกคำร้อง
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาใหม่ศาลชั้นต้นสั่งให้ยกคำร้อง (อันดับ 34)
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าว (อันดับ 35)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 36)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ในกรณีที่มีการยื่นคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา หากศาลมีคำสั่งให้ยกคำขอ โจทก์มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่ เพื่ออนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156วรรค 4 หรือจะเลือกใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์คำสั่งนั้นตามมาตรา 156วรรค 5 เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง คดีนี้ โจทก์เลือกใช้สิทธิตามมาตรา 156 วรรค 4 แล้ว เมื่อศาลภาษีอากรกลางสั่งยกคำร้องขอนั้นแม้กฎหมายมิได้บัญญัติไว้ว่าคำสั่งเช่นว่านั้นให้เป็นที่สุดก็ตาม โจทก์ก็ไม่มีสิทธิย้อนมาเลือกใช้วิธีอุทธรณ์คำสั่งตามมาตรา 156 วรรค 5 อีก ที่ศาลภาษีอากรกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์นั้นชอบแล้ว จึงให้ยกคำร้อง

Share