คำสั่งคำร้องที่ 926/2525

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ข้อฎีกาที่ว่า จำเลยซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนรู้อยู่แล้วว่าเป็นคดีแพ่งเรื่องผิดสัญญา เป็นปัญหาข้อเท็จจริงว่ารู้หรือไม่รู้ หาใช่ข้อกฎหมายไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,84,91,137,157,172,173,200,201,310 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูล พิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ประทับฟ้องของโจทก์เฉพาะจำเลยที่ 2ไว้พิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป เมื่อพิจารณาแล้วศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับฎีกา

ศาลฎีกาสั่งว่า “คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า พยานหลักฐานยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบกลั่นแกล้งโจทก์แต่อย่างใด จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 โจทก์ฎีกาว่า จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนรู้อยู่แล้วว่ากรณีนี้เป็นคดีแพ่งเรื่องผิดสัญญา จำเลยที่ 2 จึงไม่มีอำนาจจับตัวโจทก์มาขัง ข้อที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยที่ 2 รู้อยู่แล้วว่าเป็นคดีแพ่งนั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริงว่ารู้หรือไม่รู้ หาใช่ข้อกฎหมายไม่ฎีกาของโจทก์จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ยกคำร้อง”

Share