คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 764/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ระเบียบการจ่ายเงินรางวัลฝิ่น พ.ศ. 2490 ข้อ 4 ที่ว่า “เงินรางวัลเจ้าพนักงาน คือ เงินจ่ายให้แก่เจ้าพนักงานผู้ที่ได้ทำการสืบสวนจับกุมจนเป็นผลสำเร็จด้วยตนเอง ฯลฯ” นั้น หมายถึงการจ่ายให้เจ้าพนักงานผู้ที่ได้ทำการทั้งสืบสวนและจับกุม ฉะนั้น เจ้าพนักงานซึ่งทำการจับกุมแต่อย่างเดียวมิได้ร่วมสืบสวนด้วย จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินรางวัล
การไม่จ่ายเงินรางวัลหรือจ่ายน้อยกว่าระเบียบข้อ 19 นั้น จะต้องมีเหตุผล และต้องเป็นเหตุผลที่ชอบที่ควร ตามนัยแห่งฎีกาที่ 1153/2508.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจ่ายเงินรางวัลการจับฝิ่นผิดกฎหมายให้โจทก์เป็นเงิน ๑๖๗,๑๒๕ บาท ๙๕ สตางค์
จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยมีอำนาจพิจารณาไม่จ่ายเงินรางวัลหรือจะจ่ายให้ตามที่เห็นสมควรก็ได้ โจทก์มิได้จับแต่ผู้เดียว มีผู้อื่นร่วมด้วย และผู้นั้นขอให้จำเลยจ่ายเงินรางวัลให้ผู้นั้นโดยตรง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๒๐,๖๗๗.๓๓ บาทแก่โจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ระเบียบการจ่ายเงินรางวัลฝิ่น พ.ศ. ๒๔๙๐ ข้อ ๔ ที่ว่า “เงินรางวัลเจ้าพนักงาน คือ เงินจ่ายให้แก่เจ้าพนักงานผู้ที่ได้ทำการสืบสวนจับกุมจนเป็นผลสำเร็จด้วยตนเอง หรือนำความมาแจ้งจนได้ทำการจับกุมจนเป็นผลสำเร็จ” นั้น เป็นการจ่ายให้แก่เจ้าพนักงานผู้ที่ได้ทำการทั้งสืบสวนและจับกุมด้วยกรณีหนึ่ง และจ่ายให้แก่เจ้าพนักงานผู้ที่ได้นำความมาแจ้งจนได้ทำการจับกุมจนเป็นผลสำเร็จ อีกกรณีหนึ่ง ฉะนั้น ในกรณีแรก เจ้าพนักงานซึ่งทำการจับกุมแต่อย่างเดียว มิได้ร่วมสืบสวนด้วย จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินรางวัล
คดีนี้ ตามพฤติการณ์ส่อแสดงว่าโจทก์แต่ผู้เดียวสืบทราบจากสายลับมาก่อนแล้วจึงนำเจ้าพนักงานไปทำการตรวจค้นจับกุม โจทก์จึงมีสิทธิได้รับเงินรางวัลผู้เดียว จำเลยจะอ้างระเบียบข้อ ๑๙ มาอ้างมิได้ เพราะการไม่จ่ายเงินรางวัลหรือจ่ายน้อยกว่าระเบียบนั้น จะต้องมีเหตุผลและต้องเป็นเหตุผลที่ชอบที่ควร ตามนัยแห่งฎีกาที่ ๑๑๕๓/๒๕๐๘
จึงพิพากษาแก้ ให้จำเลยจ่ายเงิน ๑๖๕,๖๕๗.๙๔ บาทแก่โจทก์.

Share