คำสั่งคำร้องที่ 912/2530

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยคืนประทานบัตรเหมืองแร่ ฯลฯ แก่โจทก์ จำเลยมิได้ฟ้องแย้งขอให้โจทก์ปฏิบัติต่อจำเลย อย่างไร จึงไม่มีอำนาจบังคับให้โจทก์กระทำการใด ๆ หรืองดเว้น กระทำการใด ๆ ตามที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254 ได้ จะร้องขอ ให้โจทก์หยุดดำเนินการทำเหมืองในระหว่างฎีกาไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยคืนประทานบัตรเลขที่ 20720/12487 หนังสืออนุญาตให้เปิดเหมืองและหนังสือให้เข้าทำประโยชน์รวม 3 ฉบับแก่โจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา

จำเลยยื่นคำร้องว่า ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยมีสัญญาเช่าช่วงทำเหมืองกับโจทก์ แต่โจทก์อ้างว่าจำเลยผิดสัญญาและได้บอกเลิกสัญญาแล้วซึ่งจำเลยขอปฏิเสธว่าโจทก์ไม่เคยมีหนังสือบอกเลิกสัญญาให้จำเลยทราบ จำเลยมิได้ผิดสัญญา จำเลยจึงมีสิทธิตามสัญญาเช่าช่วงอยู่โดยสิทธิในการเข้าดำเนินการทำเหมืองเป็นสิทธิของจำเลยตามสัญญา โจทก์หามีสิทธิเข้าดำเนินการทำเหมืองไม่ การที่โจทก์ฟ้องคดีอาญาและฟ้องคดีนี้กับจำเลย เพราะโจทก์มีเจตนาไม่สุจริตเพื่อกลั่นแกล้งจำเลยและเพื่อเข้าดำเนินการทำเหมืองเสียเอง และโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต เข้าดำเนินการทำเหมืองมาโดยตลอดจนถึงขณะนี้ ซึ่งโจทก์ได้รับผลประโยชน์จากการเข้าดำเนินการทำเหมืองตลอดเวลา เพื่อบรรเทาความเสียหายแก่จำเลย โปรดมีคำสั่งให้โจทก์หยุดดำเนินการทำเหมืองไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุดโจทก์คัดค้าน

ศาลฎีกาสั่งว่า “พิเคราะห์แล้ว จำเลยให้การในฐานะจำเลยมิได้ฟ้องแย้งว่าจะให้โจทก์ปฎิบัติ ต่อจำเลยอย่างไร จำเลยจึงไม่อยู่ในฐานะที่มีอำนาจบังคับให้โจทก์กระทำการใด ๆ หรืองดเว้นกระทำการใด ๆ ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 254 ได้ จึงให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ”

Share