คำสั่งคำร้องที่ 877/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่าเป็นฎีกาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ที่แก้ไขใหม่จึงไม่รับโจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาที่ชอบด้วยกฎหมายอันควรที่ศาลฎีกาจะได้รับเพื่อพิจารณาพิพากษาต่อไปตามกฎหมายและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานในสำนวนที่ส่งมาศาลฎีกาว่าจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 341 ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้วมีคำสั่งว่า พิเคราะห์ตามคำฟ้องโจทก์แล้วเห็นว่า ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลอนุสารเชียงใหม่มอบเงินแก่จำเลยซึ่งเป็นลูกจ้าง เพื่อนำมาชำระหนี้ค่าจ้างถมดินให้โจทก์แล้วจำเลยเอาเงินนั้นบางส่วนไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัวโจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้อง จึงไม่รับฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 16)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 17)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่รับฟ้องโจทก์ อันมีความหมายเช่นเดียวกับพิพากษายกฟ้องโจทก์ กรณีจึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 ที่แก้ไขใหม่ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้วให้ยกคำร้อง

Share