คำสั่งคำร้องที่ 825/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แม้จะมีข้อกฎหมายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เป็นสาระ จึงไม่รับฎีกาของโจทก์ คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ข้อ 3.1 โจทก์ฎีกาว่าศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งโจทก์เห็นว่า ศาลจะต้องกำหนดประเด็นข้อพิพาทขึ้นใหม่ว่าจำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ เพียงใด จึงจะชอบด้วยกฎหมาย ส่วนฎีกา ข้อ 3.2 และข้อ 3.3 สืบเนื่องจากศาลชั้นต้นมิได้กำหนดประเด็น ข้อพิพาทตามคำแถลงคัดค้านประเด็นแห่งคดีของโจทก์ ฉบับลงวันที่ 16 มกราคม 2534 และที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยจะยกเอาข้อยกเว้น ความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย มาปฎิเสธ ความรับผิดต่อโจทก์ ได้หรือไม่ เป็นการคัดค้านการตีความในสัญญา ฎีกาโจทก์ทุกข้อ จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้ พิจารณาต่อไปด้วย หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 100 แผ่นที่ 2) โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 130,700 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงิน 120,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 97) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 99)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว ฎีกาข้อ 3.1,3.2 ที่ว่า ศาลชั้นต้น ควรกำหนดประเด็นพิพาทเพิ่มเติมเป็นข้อ 7 ว่า “จำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่เพียงใด” เห็นว่า ศาลชั้นต้นได้กำหนดข้อพิพาทข้อ 5 ว่า “โจทก์มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้เพียงใดหรือไม่” ครอบคลุมถึงประเด็นดังกล่าวข้างต้นแล้วไม่จำเป็นต้องกำหนดประเด็นเพิ่มเติม ฎีกาข้อนี้จึงไม่เป็นสาระ ไม่รับฎีกา ส่วนฎีกาของโจทก์ข้อ 3.2 วรรคสอง ที่ว่า จำเลย จะยกเอา ข้อยกเว้นความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยมาปฎิเสธ ความรับผิด ต่อโจทก์ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ต้องห้ามมิให้ฎีกา จึงให้รับฎีกาในปัญหาข้อนี้ไว้พิจารณา ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป

Share