คำสั่งคำร้องที่ 824/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาของโจทก์ เป็นปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้นและทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกา ไม่เกินสองแสนบาท จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ไม่รับฎีกาของโจทก์ คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด โจทก์เห็นว่า ฎีกาที่ว่าเช็คพิพาททั้งสามฉบับเป็นเช็ค ที่มีมูลหนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดี โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ไม่ปรากฎหลักฐานว่าจำเลยได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่ โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยใช้เงิน 197,031 บาท พร้อม ดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ของต้นเงิน 187,500 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 69) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 71)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงแล้วว่าจำเลยได้กู้ยืมเงินโจทก์โดยได้ออกเช็คพิพาทเพื่อชำระ ค่าดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า แต่จำเลยได้ชำระเงินกู้ยืมครบถ้วน ก่อนเช็คพิพาทถึงกำหนดแล้ว เช็คพิพาทจึงไม่มีมูลหนี้ แต่โจทก์ ฎีกาว่าเช็คพิพาทมีมูลหนี้มาจากค่าผลประโยชน์ที่โจทก์ช่วย ออกเงินค่าซื้อที่ดินไปให้ก่อน แต่ธนาคารตามเช็คปฎิเสธ การจ่ายเงิน เช่นนี้เป็นการฎีกาโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share