แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา คดีมีเหตุผลที่ศาลฎีกาจะพิพากษากลับให้จำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายชนะคดีได้ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 507)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 11 ร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 2,596,439.58 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ฯลฯ โดยให้จำเลยที่ 10 ร่วมรับผิด 143,414.51 บาทพร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 10 ใช้เงินแก่โจทก์ 88,300.15 บาท กับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ฯลฯ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 491,490)
จำเลยที่ 1 ได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์โดยจำเลยที่ 1 ได้นำโฉนดที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1เอง 1 ฉบับและโฉนดที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์นางสาวขนิษฐา สุดกังวาล นายประกันอีก 1 ฉบับ มาวางเป็นประกันและจำเลยที่ 1 กับนางสาวขนิษฐา สุดกังวาลได้ทำหนังสือสัญญาค้ำประกันไว้ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 460,480)
คำสั่ง
ถ้าจำเลยที่ 1 หาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยจนถึงวันทราบคำสั่งนี้มาเป็นที่พอใจและภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับสำหรับจำเลยที่ 1 ไว้ในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง