คำสั่งคำร้องที่ 694/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า ประเด็นเรื่องจำเลยมีอำนาจฟ้องแย้งหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย นอกนั้นเป็นการโต้แย้งดุลยพินิจของศาลในการรับฟังพยานหลักฐานเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 54 จึงให้รับเป็นอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์ในประเด็นข้อหา ที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยมิได้จงใจทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเพียงแต่เป็นการฝ่าฝืนระเบียบตามคำสั่งของโจทก์เท่านั้น เป็นการวินิจฉัยโดยไม่รับฟังพยานบุคคลและพยานเอกสารของโจทก์ซึ่งเป็นการคลาดเคลื่อนต่อข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย อันเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการรับฟังพยานหลักฐานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและเป็นปัญหาสำคัญในการที่จะวินิจฉัยประเด็นอื่น ๆ อีกด้วยโปรดมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้วินิจฉัยทุกประเด็นด้วย
หมายเหตุ ทนายจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 123)
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชดใช้เงิน 10,140 บาทแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ของต้นเงิน 8,279 บาทนับจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จจำเลยยื่นคำให้การและฟ้องแย้งศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เป็นเงิน 5,000 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จและให้โจทก์จ่ายเงินค่าชดเชยให้จำเลยตามฟ้องแย้งของจำเลยเป็นเงิน 45,660 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันถูกเลิกจ้างคือวันที่ 22 กุมภาพันธ์2527เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ คำขออื่นของโจทก์และจำเลยนอกจากนี้ให้ยกเสีย
โจทก์และจำเลยต่างอุทธรณ์ เฉพาะอุทธรณ์ของโจทก์
ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 105,110)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 107)

คำสั่ง
อุทธรณ์ของโจทก์ที่ว่า ถ้าศาลแรงงานกลางหยิบยกคำพยานโจทก์ซึ่งมีประจักษ์พยานอีกหลายปากทั้งมีพยานเอกสารประกอบขึ้นวินิจฉัยแล้ว คดีจะรับฟังได้ว่าจำเลยได้ทำการรับเหมาหรือรับเหมาช่วงนั้น เป็นการอุทธรณ์โต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลาง เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงอันต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 54 ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share