แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2534 ว่า ฎีกาโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248ที่แก้ไขใหม่ จึงไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์มีประเด็นที่สำคัญว่า ที่ดินพิพาทโจทก์มีสิทธิครอบครองหรือไม่และตามข้อเท็จจริงที่ดินพิพาทโจทก์เป็นฝ่ายครอบครองมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2476 ตลอดมาจนถึง วันฟ้องเป็นเวลา 58 ปีเศษแล้ว ซึ่งโจทก์ได้สิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367, มาตรา 1369 และประมวลกฎหมายที่ดิน และโจทก์ได้สิทธิครอบครองโดยอายุความด้วย ข้อต่อสู้ของโจทก์ดังกล่าวนี้เป็นข้อกฎหมายทั้งสิ้น แต่ที่โจทก์ได้บรรยายข้อเท็จจริงมาในฎีกานั้นเนื่องจากเป็นข้อเท็จจริง เพื่อหารือบทข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้ พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทในพื้นที่สีแดงตามเอกสารท้ายฟ้อง หมายเลข 3 ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ 2 งาน 88 ตารางวา ห้ามจำเลย ยุ่งเกี่ยวกับที่ดินพิพาทอีกต่อไป ให้จำเลยแบ่งที่ดินตามหนังสือ รับรองการทำประโยชน์เลขที่ 1980 เลขที่ดิน 50 ตำบลท่าทอง อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 4 จำนวนเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ 2 งาน 88 ตารางวาซึ่งเป็นพื้นที่ดินพิพาทในพื้นที่สีแดงตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 3 ให้แก่โจทก์ และให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนา แทนเจตนาของจำเลยและให้เจ้าพนักงานที่ดินอำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานีปฏิบัติการจดทะเบียนและแบ่งที่ดินตามที่กล่าวมา ให้แก่โจทก์ ให้จำเลยชำระเงินจำนวน 11,000 บาท พร้อมด้วย ดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในเงิน 11,000 บาท นับจาก วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะชำระให้โจทก์เสร็จ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา เมื่อวันที่4 ธันวาคม 2534(อันดับ 160)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2534 และศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ฎีกายื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาเกินกำหนด10 วัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247 ประกอบด้วย มาตรา 234 ให้ส่งสำนวนไปศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่ง (อันดับ 162)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาโจทก์เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2534 โจทก์ยื่นคำร้องฎีกาคำสั่งในวันที่19 ธันวาคม 2534 เป็นการยื่นภายใน 15 วันนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ที่แก้ไขใหม่ประกอบมาตรา 247 แล้วให้รับคำร้อง ฎีกาคำสั่งของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป