แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ขอให้ศาลปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกาโดยผู้ขอประกันได้เสนอบัญชีทรัพย์มาพร้อมกับคำร้องแล้ว
หมายเหตุ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 กระทงหนึ่ง จำคุก 2 ปี ตามมาตรา 287 ฯลฯพระราชบัญญัติปรามการทำให้แพร่หลายและการค้าวัตถุอันลามก พุทธศักราช 2471มาตรา 3 อีกกระทงหนึ่ง ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก 1 ปี เรียงกระทงลงโทษรวมจำคุก 3 ปีข้อหาอื่นยก ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานปลอมหนังสือเดินทางของเมืองฮ่องกง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 265,83 อีกกระทงหนึ่ง จำคุก 2 ปี รวมเป็นโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ทั้งสิ้น 5 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา (อันดับ 125)
จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องดังกล่าว โดยมีคำร้องประกอบของทนายจำเลยที่ 1 และผู้ขอประกัน (อันดับ 124 แผ่นที่ 3,1,2)
จำเลยที่ 1 เคยยื่นคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกามาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาต ให้ยกคำร้อง(อันดับ 121 แผ่นที่ 2,3)
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 1 ชั่วคราว และในชั้นอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นตีราคาประกัน 150,000 บาท (อันดับ 88)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 1เฉพาะข้อหาปลอมหนังสือเดินทางของเมืองฮ่องกง ส่วนฎีกาของจำเลยที่ 1 ในข้อหาอื่นที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับเพราะเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง และไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น จึงไม่มีเหตุสมควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1 ในระหว่างฎีกา ให้ยกคำร้อง
