แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา คดีมีทางชนะ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 368)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินตามฟ้องพร้อมกับรื้อถอนโรงเรือนและขนย้ายทรัพย์สินออกไปด้วยห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินตามฟ้องต่อไป และให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ดินที่ค้างชำระพร้อมด้วยค่าเสียหายถึงวันฟ้องเป็นเงิน 98,720 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระให้โจทก์เสร็จสิ้น กับให้จำเลยชำระค่าเสียหายปีละ 24,680 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากที่ดินของโจทก์พร้อมทั้งรื้อถอนโรงเรือนและขนย้ายทรัพย์สินออกไปจนหมดสิ้น
จำเลยฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 296,295)
ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ทุเลาการบังคับในส่วนที่ให้ขับไล่แต่ในส่วนที่ให้จำเลยชำระเงินให้จำเลยวางประกันตามที่ศาลชั้นต้นกำหนด และในวันนัดพิจารณาหลักประกัน ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟัง ทนายจำเลยจึงแถลงไม่ติดใจขอทุเลาการบังคับและขอถอนคำร้องดังกล่าวเสีย ศาลชั้นต้นอนุญาต (อันดับ 223,252)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ในเรื่องให้ขับไล่ อนุญาตให้ทุเลาการบังคับแต่ห้ามจำเลยทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับที่ดินพิพาทในระหว่างฎีกาให้ศาลชั้นต้นแจ้งคำสั่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ ส่วนในเรื่องที่ให้จำเลยชำระเงินหากจำเลยหาประกันสำหรับค่าเช่าที่ค้างและค่าเสียหายรวม 98,720 บาท ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าว มีกำหนด 10 ปี และสำหรับค่าเสียหายปีละ 24,680 บาท มีกำหนด 10 ปี นับแต่วันฟ้องมาวางให้เป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดก็ให้ทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้องในส่วนหลังนี้
