แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้ นางละออ ประมวล โจทก์ที่ 7 ได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2529 ปรากฏตามใบมรณบัตรท้ายคำร้องผู้ร้องซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมขอเข้าเป็นโจทก์แทนเพื่อดำเนินคดีต่อไปโปรดอนุญาต
หมายเหตุ ทนายจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 21)
คดีของศาลแรงงานกลางหมายเลขแดงที่ 5576/2529 นี้ ศาลแรงงานกลางพิจารณาพิพากษารวมกับคดีอื่นอีกสี่สำนวน โดยเรียกโจทก์ในคดีนี้ว่าโจทก์ที่ 7
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ที่ 7เป็นจำนวนเงิน 22,830 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันเลิกจ้างจนกว่าจำเลยจะชำระให้โจทก์เสร็จสิ้น
จำเลยอุทธรณ์ (อันดับ 12)
ก่อนศาลแรงงานกลางส่งอุทธรณ์พร้อมสำนวนไปยังศาลฎีกาผู้ร้องยื่นคำร้องดังกล่าวต่อศาลแรงงานกลาง (อันดับ 19)
ศาลแรงงานกลางนัดไต่สวนคำร้อง
วันนัดไต่สวนคำร้องศาลแรงงานกลางสอบผู้ร้องและเสมียนทนายจำเลยแล้ว เห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้โดยไม่จำต้องไต่สวน จึงให้งดการไต่สวนและส่งศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่งพร้อมอุทธรณ์ต่อไป (อันดับ 24)
ศาลฎีกาพิเคราะห์คำร้องและพยานหลักฐานของผู้ร้องแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานของผู้ร้อง ยังไม่เพียงพอที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยว่าผู้ร้องเป็นบุตรบุญธรรมของโจทก์ที่ 7 จึงมีคำสั่งให้ศาลแรงงานกลางทำการไต่สวนพยานหลักฐานของผู้ร้องเพิ่มเติมเสร็จแล้วส่งสำนวนคืนศาลฎีกาโดยเร็ว (อันดับ 27)
ศาลแรงงานกลางได้นัดไต่สวนคำร้องอีก ถึงวันนัดไต่สวนผู้ร้องแถลงว่า โจทก์ที่ 7 มิได้จดทะเบียนรับผู้ร้องเป็นบุตรบุญธรรมแต่อย่างใด เพียงแต่เลี้ยงดูผู้ร้องมาตั้งแต่ผู้ร้องเด็ก ๆ และนับให้ผู้ร้องเป็นบุตรบุญธรรมเท่านั้น ศาลแรงงานกลางเห็นว่าไม่จำต้องไต่สวนพยานหลักฐานของผู้ร้องอื่นอีก จึงให้งดการไต่สวนและให้ส่งสำนวนไปศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่ง (อันดับ 37)
ต่อมาศาลแรงงานกลางได้ส่งสำนวนมายังศาลฎีกา
คำสั่ง
ทางไต่สวนได้ความว่าโจทก์ที่ 7 มิได้จดทะเบียนรับผู้ร้องเป็นบุตรบุญธรรม ผู้ร้องจึงไม่มีฐานะเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ที่ 7 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1598/27 และมิใช่ทายาทของโจทก์ที่ 7 ผู้มรณะ ไม่มีสิทธิที่จะเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ที่ 7 ไม่อนุญาตให้ผู้ร้องเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ที่ 7 ให้ยกคำร้อง