คำสั่งคำร้องที่ 56/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 ทั้งสามสำนวนฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าฎีกาของจำเลยที่ 2 ที่ 3 เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แต่ทุนทรัพย์ที่ฎีกาของโจทก์ แต่ละคนไม่เกิน 200,000 บาท ซึ่งต้องห้ามฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248จึงไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ที่ 3 คืนค่าขึ้นศาลและค่าฤชาธรรมเนียมแก่จำเลยที่ 2 ที่ 3 จำเลยที่ 2 และที่ 3 เห็นว่า ฎีกาที่ว่า ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยคดีโดยรับฟังข้อเท็จจริง โดยฝ่าฝืนหรือผิดไปจากพยานหลักฐานในสำนวน และเมื่อ ข้อเท็จจริงปรากฏว่า เหตุละเมิดเกิดจากความประมาทของคู่ความ ทั้งสองฝ่ายเท่า ๆ กัน แต่ศาลกลับวินิจฉัยให้ฝ่ายจำเลยรับผิด เพียงฝ่ายเดียว จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ด้วย หมายเหตุ โจทก์ทั้งหกยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง คดีทั้งสามสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกันโดยให้เรียกโจทก์ทั้งสามสำนวนว่าโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 6ตามลำดับ ระหว่างพิจารณา จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอให้เรียกบริษัทไทยเศรษฐกิจประกันภัย จำกัด เข้ามาเป็นจำเลยร่วมศาลชั้นต้นอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย ให้แก่โจทก์ที่ 1 เป็นเงิน 50,000 บาท โจทก์ที่ 2เป็นเงิน 123,670 บาท และโจทก์ที่ 4 เป็นเงิน 50,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 29 มิถุนายน2532 จนกว่าจะชำระเสร็จ โดยให้จำเลยร่วมรับผิดใช้ค่าเสียหาย ให้แก่โจทก์ที่ 1 ที่ 2 เป็นเงิน 50,000 บาท และโจทก์ที่ 4 เป็นเงิน 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2532 จนกว่าจะชำระเสร็จ ส่วนโจทก์ที่ 3 ที่ 5 และที่ 6 ให้ยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสามและจำเลยร่วมร่วมชำระดอกเบี้ยค่าเสียหายให้โจทก์ที่ 1ที่ 2 และที่ 4 นับแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2533 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้น จำเลยที่ 2 และที่ 3 ทั้งสามสำนวนฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 187) จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่วางเงินค่าฤชาธรรมเนียมและเงินที่ต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ให้แก่โจทก์ จึงให้รวบรวมสำนวนส่งศาลฎีกาเพื่อสั่ง (อันดับ 191)

คำสั่ง จำเลยที่ 2 ที่ 3 ไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 234 ประกอบด้วย มาตรา 247 ก่อน จึงให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ที่ 3

Share