คำสั่งคำร้องที่ 550/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า คดีนี้ ศาลนัดฟังคำสั่งศาลฎีกา แต่เนื่องจากโจทก์และจำเลยสามารถตกลงกันได้โดยจำเลยชำระหนี้ให้โจทก์เรียบร้อยแล้วโจทก์ไม่ประสงค์ดำเนินคดีต่อไป จึงขอถอนฟ้อง โปรดอนุญาต
หมายเหตุ จำเลยแถลงท้ายคำร้องว่า ได้รับสำเนาคำร้องขอถอนฟ้องแล้ว ไม่คัดค้าน (อันดับ 71)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91
ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนมูลฟ้อง
วันนัดไต่สวนมูลฟ้อง จำเลยแถลงให้การรับสารภาพตามฟ้องศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้งดการไต่สวน และให้ประทับฟ้องไว้พิจารณาศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ลงโทษตามเช็คฉบับที่ 1 จำคุก 1 เดือน ลงโทษตามเช็คฉบับที่ 2 จำคุก 1 เดือนรวมจำคุก 2 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 เดือน เห็นว่า จำเลยชำระเงินให้โจทก์ไปบ้างแล้ว และไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษถึงจำคุกมาก่อนเพื่อให้โอกาสจำเลยโทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด 2 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่รอการลงโทษ โทษจำคุกตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้เปลี่ยนเป็นกักขังแทน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 23 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 58)
จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง (อันดับ 59)
ศาลฎีกาทำคำสั่งเสร็จ และส่งไปยังศาลชั้นต้นเพื่ออ่าน(อันดับ 64)
ศาลชั้นต้นนัดฟังคำสั่งของศาลฎีกา
วันนัดฟังคำสั่งของศาลฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าวต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 71) ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ส่งศาลฎีกาเพื่อมีคำสั่ง โดยศาลชั้นต้นยังมิได้อ่านคำสั่งของศาลฎีกาตามที่ได้นัดไว้(อันดับ 72) และส่งคำสั่งพร้อมสำนวนมายังศาลฎีกา

คำสั่ง
คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง จำเลยไม่ค้าน ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้เป็นความผิดต่อส่วนตัว โจทก์มีสิทธิถอนฟ้องได้ก่อนคดีถึงที่สุด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 35 วรรคสองจึงอนุญาตให้ถอนฟ้องได้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) อันมีผลให้คำพิพากษาของศาลล่างระงับไปในตัว ให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความศาลฎีกา

Share