คำสั่งคำร้องที่ 545/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ทุนทรัพย์ที่พิพาทคือจำนวนเงินที่จำเลยโต้เถียงไม่เกินห้าหมื่นบาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน เมื่อฎีกาของจำเลยล้วนเป็นการเถียงข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามฎีกา ไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยเห็นว่า ทุนทรัพย์ที่พิพาทคดีนี้เป็นทุนทรัพย์ที่โจทก์ตั้งฟ้องมาและจำเลยได้โต้เถียงจำนวน 51,889 บาท จำเลยมิได้ฎีกาเฉพาะข้อเท็จจริงแต่ฎีกาข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรค 2 ขึ้นคัดค้าน และแม้จำเลยยื่นคำร้องฎีกาคำสั่งศาลชั้นต้นเกินกำหนด 10 วัน ศาลฎีกามีคำสั่งให้รับฎีกาจำเลยได้ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 38/2529 และฎีกาที่ 555/2523
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้จำเลยชำระเงิน 47,689 บาทให้แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ในต้นเงิน 40,659 บาทนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 76)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 79)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาจำเลยนั้น จำเลยยื่นเกินกำหนดระยะเวลาตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบมาตรา 247ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ สำหรับคำพิพากษาศาลฎีกาที่จำเลยอ้างมานั้น ข้อเท็จจริงไม่ตรงกับปัญหาในคดีนี้

Share