คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่จำเลยได้ดำเนินการติดต่อกรมเจ้าท่าและการท่าเรือแห่งประเทศไทยเพื่อการนำร่องเรือ น. ซึ่งบรรทุกสินค้ารายพิพาทเข้าสู่ท่าและขอที่จอดเทียบเรือ กับติดต่อกรมศุลกากรเพื่อให้พนักงานศุลกากรไปตรวจสินค้าในเรือรวมทั้งแจ้งเวลาเรือเข้าให้ผู้รับตราส่งทราบ กิจการเหล่านี้เป็นกิจการที่เจ้าของเรือ น. และบริษัท ฟ. ผู้ขนส่งจะต้องกระทำโดยตนเองซึ่งได้มอบอำนาจให้บริษัท ซ. เป็นผู้กระทำการแทน แต่บริษัท ซ. มีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศ จึงได้มอบอำนาจช่วงให้จำเลยเป็นผู้ดำเนินกิจการเหล่านั้นแทน การที่จำเลยกระทำไปดังกล่าวยังไม่พอให้ถือได้ว่าจำเลยได้ทำหน้าที่เป็นผู้เข้าร่วมขนส่งกับเรือ น. และบริษัท ฟ. และเพียงแต่จำเลยได้ร่วมตรวจสอบสินค้ารายพิพาทกับพนักงานตรวจสอบสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย รับมอบใบตราส่งคืน แล้วออกใบรับของให้แก่ผู้รับตราส่งกับแจ้งไปยังผู้อำนวยการกองการตรวจสอบสินค้าขาเข้า กรมศุลกากรขอแก้บัญชีสินค้าเพื่อให้ผู้รับตราส่งไปดำเนินพิธีการศุลกากร ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยอยู่ในฐานะเป็นผู้ขนส่งหลายคนหลายทอด.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์รับประกันภัยการขนส่งฝ้ายดิบจำนวนไม่เกิน 200 มัดของบริษัทพิพัฒนกิจเท็กซ์ไทล์ จำกัด ผู้ซื้อซึ่งมีฝ้ายดิบที่จะส่งมารวม 2 ชนิด จำนวน 193 มัด มีน้ำหนักสุทธิ 100,000 ปอนด์ ในทุนประกัน 88,000 เหรียญสหรัฐ โดยมีเงื่อนไขแห่งความรับผิดในภัยทุกประเภทรวมทั้งความเสียหายและสูญหายของสินค้าระหว่างการขนส่งจากท่าเรือนิวออลีนส์ประเทศสหรัฐอเมริกา จนถึงท่าเรือกรุงเทพมหานคร สินค้าดังกล่าวขนส่งมาโดยเรือนิโคเลย์คารามซินเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2522และมาถึงท่าเรือกรุงเทพมหานครวันที่ 4 เมษายน 2522 จำเลยซึ่งเป็นตัวแทนต่างประเทศรับทำการขนส่งหลายทอดกับเรือสินค้าผู้ขนส่งดังกล่าวได้ดำเนินการทางพิธีการศุลกากรเพื่อขอรับสินค้าจึงทราบว่าสินค้าที่ส่งมาได้ขาดหายไปจำนวน 68 มัด คิดเป็นเงินไทย 634,059.40 บาท โจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวนเงินดังกล่าวให้ผู้เอาประกันภัยเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2522 จึงรับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยมาเรียกร้องเอาแก่จำเลยขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 700,001.73 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 634,059.40 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 634,059.40บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้เป็นตัวแทนต่างประเทศของเรือนิโคเลย์คารามซิน ผู้ขนส่ง จำเลยเป็นแต่เพียงตัวแทนในประเทศไทยของบริษัทโซวินฟล๊อตแห่งสหภาพโซเวียต โดยเป็นผู้ดำเนินพิธีการศุลกากร การท่าเรือ กรมเจ้าท่า และกองตรวจคนเข้าเมือง จำเลยมิได้เป็นผู้ขนส่งหรือทำการขนส่งรวมกับเรือเดินทะเลลำใด หน้าที่ในการขนส่งเป็นของเรือเดินทะเลแต่ละลำ ส่วนการขนถ่ายสินค้าส่งถึงผู้รับก็เป็นหน้าที่ของผู้ขนถ่ายสินค้า จำเลยมิได้เข้าร่วมพิธีการศุลกากรตรวจนับสินค้าและขอรับสินค้าแต่ได้รับแจ้งสินค้าสูญหายจากเจ้าของสินค้าและผู้ขนถ่ายสินค้า จำเลยทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนทั่วไปของบริษัทโซวินฟล๊อตซึ่งมีภูมิลำเนาในต่างประเทศเท่านั้น จำเลยจะรับผิดก็แต่ตามสัญญาที่กระทำแต่ลำพังตนเอง จึงหาต้องรับผิดเป็นการส่วนตัวไม่ และฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงินจำนวน 634,059.40 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 26กันยายน 2522 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘…ปัญหาว่าจำเลยจะต้องรับผิดในการที่สินค้ารายพิพาทสูญหายไปในระหว่างการขนส่งทางทะเลของบริษัทฟาร์อิสต์เทอร์ชิปปิ้งคัมปานี ผู้ขนส่งซึ่งขนส่งมาโดยเรือนิโคเลย์คารามซินหรือไม่ ข้อที่จะต้องพิจารณาในปัญหานี้ก็คือ ถ้าจำเลยเข้าร่วมขนส่งและเป็นการขนส่งหลายคนหลายทอดตามวิธีการขนส่งทางทะเลจำเลยก็ต้องรับผิดด้วยพิเคราะห์แล้ว การขนส่งรายนี้บริษัทดับบลิว บี ดันนาแวนท์ผู้ขายได้ว่าจ้างบริษัทฟาร์อิสเทอร์นชิปปิ้งคัมปานีเป็นผู้ขนส่งดังปรากฏตามใบตราส่งเอกสารหมาย จ. 5 โดยจำเลยมิได้เข้าร่วมทำสัญญาด้วย และได้ความจากคำเบิกความของนายพินิจ ลีนะวัตประธานกรรมการบริษัทจำเลย กับนายฉัตรไชย รุ่งธีระวัฒนานนท์พยานจำเลยว่า ในการขนถ่ายสินค้าจากเรือมีข้อตกลงระหว่างบริษัทโซวินฟล๊อตกับห้างหุ้นส่วนจำกัดอัมพรแอนด์ซันส์ ตามเอกสารหมาย จ. 29 ผู้ทำหน้าที่ขนถ่ายสินค้าคือห้างหุ้นส่วนจำกัดอัมพรแอนส์ซันส์ นายบุญช่วย หงส์แก้ว พยานโจทก์ก็เบิกความเจือสมคำพยานจำเลยว่า การขนถ่ายสินค้าจากเรือนิโคเลย์คารามซินนั้นทางบริษัทอื่นเป็นผู้ทำ บริษัทจำเลยไม่ได้ทำ ทั้งเอกสารหมาย จ. 29 นี้เป็นเอกสารที่โจทก์ส่งอ้างเป็นพยานซึ่งมีข้อความว่าบริษัทโซวินฟล๊อตตกลงให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดอัมพรแอนด์ซันส์ ดำเนินการขนส่งสินค้าขึ้นจากเรือ จัดหาและจ่ายค่าแรงงานทั้งหมด รวมทั้งจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการขนถ่ายสินค้า ในเบื้องต้นจึงฟังได้ว่าจำเลยไม่ได้เข้าร่วมทำการขนส่งสินค้ารายพิพาท และไม่ได้มีส่วนเข้าร่วมในการขนถ่ายสินค้ารายพิพาทจากเรือนิโคเลย์คารามซิน
การที่จำเลยได้ดำเนินการติดต่อกรมเจ้าท่าและการท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่อการนำร่องเรือนิโคเลย์คารามซินซึ่งบรรทุกสินค้ารายพิพาทเข้าสู่ท่าและขอที่จอดเทียบเรือกับติดต่อกรมศุลกากรเพื่อให้พนักงานศุลกากรไปตรวจสินค้าในเรือ รวมทั้งแจ้งเวลาเรือเข้าให้ผู้รับตราส่งทราบ กับเมื่อเรือเข้าเทียบท่าแล้ว จำเลยได้ร่วมกับพนักงานตรวจสอบสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทยทำการตรวจสอบสินค้ารายพิพาท จากนั้นก็รับมอบใบตราส่งคืนมา แล้วออกใบรับของให้แก่ผู้รับตราส่งเพื่อนำไปรับสินค้าจากการท่าเรือแห่งประเทศไทยเมื่อสินค้าขาดจำนวน จำเลยก็แจ้งไปยังผู้อำนวยการกองตรวจสินค้าขาเข้า กรมศุลกากร ขอแก้ไขบัญชีสินค้า เพื่อให้ผู้รับตราส่งไปดำเนินพิธีการศุลกากรตามที่พิจารณาได้ความมานั้น จะเป็นการที่จำเลยเข้าร่วมขนส่งและเป็นการขนส่งหลายคนหลายทอดตามวิธีการขนส่งทางทะเลหรือไม่ เห็นว่าการติดต่อเพื่อการนำร่องเรือเข้าสู่ท่าและขอที่จอดเทียบเรือกับติดต่อเพื่อให้พนักงานศุลกากรไปตรวจสินค้าในเรือรวมทั้งแจ้งเวลาเรือเข้าให้ผู้รับตราส่งทราบ กิจการเหล่านี้เป็นกิจการที่เจ้าของเรือนิโคเลย์คารามซินและบริษัทฟาร์อิสต์เทอร์นชิปปิ้งคัมปานีผู้ขนส่งจะต้องกระทำโดยตนเองซึ่งได้มอบอำนาจให้แก่บริษัทโซวินฟล๊อตแห่งสหภาพโซเวียตเป็นผู้กระทำการแทน แต่เนื่องจากบริษัทโซวินฟล๊อตมีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศ จึงได้มอบอำนาจช่วงให้จำเลยเป็นผู้ดำเนินกิจการเหล่านั้นแทนดังปรากฏตามเอกสารหมาย ล. 1 การที่จำเลยกระทำไปดังกล่าว ยังไม่พอให้ถือได้ว่าจำเลยได้ทำหน้าที่เป็นผู้เข้าร่วมขนส่งกับเรือนิโคเลย์คารามซินและบริษัทฟาร์อิสต์เทอร์นชิปปิ้งคัมปานีด้วย และลำพังแต่การที่จำเลยได้ร่วมกระทำการตรวจสอบสินค้ารายพิพาทกับพนักงานตรวจสอบสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย รับมอบใบตราส่งคืนมา แล้วออกใบรับของให้แก่ผู้รับตราส่ง กับแจ้งไปยังผู้อำนวยการกองตรวจสอบสินค้าขาเข้า กรมศุลกากร ขอแก้ไขบัญชีสินค้า เพื่อให้ผู้รับตราส่งไปดำเนินพิธีการศุลกากร ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยอยู่ในฐานะผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดตามวิธีการขนส่งทางทะเล ดังที่โจทก์อ้าง จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามฟ้อง…’
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลแทนจำเลย โดยกำหนดค่าทนายความรวม 20,000 บาท.

Share