แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษกักขังจำเลยแทนโทษจำคุกศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาขอให้รอการกำหนดโทษหรือรอการลงโทษ เป็นฎีกาโต้แย้งดุลพินิจในการลงโทษของศาล ฎีกาของ จำเลยจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ตรี
ย่อยาว
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาเป็นฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรคแรก (ที่ถูกน่าจะเป็นมาตรา 219 ตรี) จึง ไม่รับ
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาให้รอการลงโทษหรือ รอกำหนดโทษจำเลยต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนา คำร้องแล้วหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 4 ทวิ, 5, 10, 12, 14, ทวิ,15 พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2485 มาตรา 3 พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2490 มาตรา 3 พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2504 มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 กรรมแรกลงโทษจำคุก 4 เดือนกรรมที่สองจำคุก 2 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุ บรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงลงโทษกรรมแรกจำคุก 2 เดือน กรรมที่สองจำคุก 1 เดือน รวม จำคุก 3 เดือน โดยให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา ดังกล่าว (อันดับ 44)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 46)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษกักขังจำเลยแทนโทษจำคุก ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาขอให้รอการกำหนดโทษหรือรอการลงโทษเป็นฎีกาโต้แย้งดุลพินิจในการลงโทษของศาลฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ตรี ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยนั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง