แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยยื่นคำร้องขอเพิกถอนการจำหน่ายคดี และหรือขยายระยะเวลาโดยอาศัยอำนาจทั่วไป ของศาลไปในทางที่เห็นว่ายุติธรรมและสมควร ศาลชั้นต้น มีคำสั่งว่า คดีถึงที่สุดแล้ว ไม่รับคำร้อง
จำเลยเห็นว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นยังคลาดเคลื่อน ในดุลยพินิจ โปรดมีคำสั่งให้รับคำร้องของ จำเลย ไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกคำพิพากษา ศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ ให้จำเลยชำระเงิน 10,000 บาท แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์ภาค 1 สั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย
จำเลยฎีกา ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจาก สารบบความของศาลฎีกา
จำเลยยื่นคำร้องขอเพิกถอนการจำหน่ายคดี ฯลฯศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำร้อง (อันดับ 89)
จำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 90)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไว้ชัดแจ้งว่า ให้จำเลยนำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ การที่จำเลยไม่ไปนำส่ง ถือว่าจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาล ดังนั้นเมื่อ เจ้าพนักงานของศาลนำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ไม่ได้ และได้รายงานให้ศาลทราบแล้ว ก็ถือว่าจำเลยได้ทราบผล ของการส่งสำเนาฎีกาแล้ว จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องแถลง ให้ศาลทราบภายในเวลาที่ศาลกำหนดโดยศาลไม่ต้อง แจ้งให้จำเลยทราบ ฉะนั้นเมื่อศาลฎีกามีคำสั่งว่าจำเลย ทิ้งฟ้องและให้จำหน่ายคดีแล้ว คดีย่อมถึงที่สุดที่จำเลย อ้างคำพิพากษาศาลฎีกามานั้น ข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำร้องของ จำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
