คำสั่งคำร้องที่ 507/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า เนื่องจากภายหลังที่ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนี้แล้วได้ปรากฏข้อเท็จจริงใหม่ซึ่งหากศาลฎีกาได้นำมาวินิจฉัยแล้ว จะทำให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งคดีเป็นไปโดยความเที่ยงธรรมโจทก์จึงจำเป็นต้องขออนุญาตอ้างพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นภายหลังศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนี้แล้วซึ่งเกี่ยวกับประเด็นแห่งคดีโดยตรงเพิ่มเติมตามบัญชีพยานโจทก์เพิ่มเติมท้ายคำร้อง และขอนำพยานหลักฐานดังกล่าวซึ่งโจทก์ไม่สามารถนำสืบได้ก่อนหน้านี้ เพราะศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตตามคำร้องของโจทก์มาสืบเพิ่มเติมด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
โจทก์ชำระค่าคำร้องมา 20 บาท
โจทก์ฟ้องและแก้ไขฟ้องขอให้พิพากษาว่าทรัพย์มรดกทั้งหมดของนางสาวผัน ณ นคร ตามบัญชีทรัพย์เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 3มีมูลค่า 115,351,276.30 บาท เป็นของโจทก์แต่ผู้เดียว ให้จำเลยส่งมอบทรัพย์มรดกทั้งหมด ฯลฯ เอกสารอันเป็นหลักฐานกรรมสิทธิ์ในทรัพย์มรดก ฯลฯ แก่โจทก์และให้จำเลยชดใช้ค่าเช่าที่ดินและค่าผลประโยชน์ในที่ดินและอาคารของทรัพย์มรดก ฯลฯ ที่จำเลยเก็บจากผู้เช่าและได้นำไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวนับแต่วันที่นางสาวผัน ณ นคร ถึงแก่กรรมจนถึงวันฟ้องเป็นเงิน 3,696,012 บาท ฯลฯคืนแก่โจทก์โดยครบถ้วน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา โดยได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาชั้นฎีกา (อันดับ 275,274)
คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
โจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 282)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าพยานหลักฐานที่ขออ้างเพิ่มเติมเป็นพยานที่มีอยู่และสามารถนำมาสืบเป็นพยานในชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้นได้แล้ว แต่มิได้นำมาสืบจึงไม่มีเหตุที่จะขออ้างเพิ่มเติมในชั้นฎีกา ยกคำร้อง

Share