แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีนี้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยฎีกาอย่างคนอนาถาได้โดยถือว่าจำเลยยังยากจนอยู่ตามมาตรา 155 วรรคสองและได้ส่งสำนวนมาศาลฎีกาแล้ว โจทก์ยื่นคำร้องว่าจำเลยมิได้ยากจนศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เรื่องบ้าน 4 หลังซึ่งโจทก์ อ้างว่าเป็นของจำเลยที่ 1 นั้น โจทก์เคยอ้างเป็นเหตุ คัดค้านเมื่อจำเลยขออุทธรณ์ อย่างคนอนาถามาแล้วปรากฏว่าบ้าน 3 หลังเป็นบ้านที่วัดพลับ ฟ้องจำเลยว่าเป็นของวัดพลับรวมทั้งค่าเช่าด้วยส่วนบ้าน 1 หลัง ซึ่งจำเลยใช้เป็นที่อยู่อาศัยก็เป็นบ้านเก่าและมีราคาเล็กน้อย ส่วนข้อที่ว่า จำเลยที่ 1 ขอเป็นผู้จัดการมรดกของจำเลยที่ 2 ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 มีทรัพย์สินอะไรและคดียัง อยู่ในระหว่างศาลชั้นต้นนัดไต่สวนไม่แน่ว่าจะมีใครคัดค้านหรือไม่กรณีจึงถือว่าจำเลยยัง ยากจนอยู่ คดีไม่เข้าข้อยกเว้นที่ศาลจะไต่สวนตามคำร้องของโจทก์