แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า เนื่องจากจำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจประจำ สถานีตำรวจภูธรอำเภอจะนะ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุในคดีนี้ และโจทก์ได้กล่าวหาว่าจำเลยร่วมกับพวกอีกสองคนที่กำลัง หลบหนีข้อหาพยายามฆ่า, ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และบุกรุกซึ่งโจทก์และพยานโจทก์ในคดีนี้เป็นประชาชนอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ จำเลยสามารถใช้อำนาจในทางที่เป็นคุณหรือเป็นโทษได้ด้วยอำนาจหน้าที่ของจำเลย และจำเลยได้ข่มขู่ตัวโจทก์และประจักษ์พยานโจทก์ว่าจะพยายามติดตามฆ่าให้ตายให้สำเร็จจนทำให้ตัวโจทก์และพยานโจทก์หวาดกลัวต่อการข่มขู่ของจำเลยและเกรงกลัวการใช้อำนาจหรืออิทธิพลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จากพฤติการณ์ดังกล่าวของจำเลยทำให้พยานโจทก์บางรายในคดีนี้ได้หลบหลีกหนี้หน้าออกนอกพื้นที่และไม่กล้ามาเบิกความที่ศาล จังหวัดสงขลาตามความเป็นจริงเพราะกลัว ถูกฆ่าปิดปากหรือกลัว การกลั่นแกล้งจากจำเลย โจทก์เห็นว่า หากมีการพิจารณาคดีนี้ ที่ศาลจังหวัดสงขลา อาจมีการขัดขวางการพิจารณาคดี และน่าจะเกิดความไม่สงบหรือมีเหตุร้ายอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น แก่โจทก์และพยานโจทก์ดังกล่าวตามที่จำเลยข่มขู่ได้ เพื่อ ประโยชน์แห่งความยุติธรรม ขอได้โปรดมีคำสั่งอนุญาตให้ โอนคดีนี้ไปพิจารณาที่ศาลอาญา กรุงเทพมหานคร ต่อไปด้วย
หมายเหตุ จำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 40)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80,157,364 และ 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูลให้ประทับฟ้อง
คดีอยู่ระหว่างนัดสืบพยานโจทก์
โจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 36)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว กรณียังไม่พอฟังว่าอาจมีการขัดขวางต่อการพิจารณาหรือน่ากลัวว่าจะเกิดความไม่สงบหรือเหตุร้ายอย่างอื่น ขึ้น จึงไม่อนุญาตให้โอนคดี
