แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
 ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นการบิดเบือน ข้อเท็จจริงเพื่อให้เป็นข้อกฎหมาย เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 จึงไม่รับฎีกา
 จำเลยเห็นว่า ฎีกาจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายขอศาลฎีกาโปรดรับฎีกาจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
 หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
 คดีทั้งสองสำนวน ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกันโดยเรียกโจทก์สำนวนแรกและโจทก์สำนวนหลังเป็นโจทก์ที่ 1และที่ 2 ตามลำดับ
 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ลงโทษจำคุก 3 ปี
 ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
 จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 131)
 จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 132 แผ่นที่ 4)
 คำสั่ง
 พิเคราะห์ฎีกาของจำเลยแล้ว เห็นว่าศาลล่างทั้งสองฟัง ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติต้องกันว่าจำเลยได้ชกต่อยทำร้ายผู้ตายถึงแก่ความตายอันเป็นความผิดตามฟ้อง จำเลยโต้เถียงว่าผู้ตายตายเพราะเกิดเหตุชุลมุนและจำเลยมิได้ทำร้ายผู้ตาย เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลล่างทั้งสองฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้น ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง
