แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า พิเคราะห์ฎีกาจำเลยที่ 2 แล้วเป็นข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขใหม่จึงไม่รับฎีกา
จำเลยที่ 2 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 2 ในประเด็นที่ว่าโจทก์ฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองภายใน 1 ปี หรือไม่ เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองพร้อมบริวารออกไปจาก ที่พิพาท ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่ 3(ปัจจุบันเป็นหมู่ที่ 12 หรือเดิมเป็นหมู่ที่ 10) ตำบลวังชมภู(เดิมเป็นตำบลนายม)อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 482 และห้ามเกี่ยวข้อง อีกต่อไป
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 136)
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 139)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้ออ้างเป็นปัญหาข้อกฎหมายของจำเลยที่ 2 ย่อมต้องอาศัยข้อเท็จจริงเพื่อการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย การเถียงข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่ยุติและต้องห้ามฎีกาเพื่อสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลยที่ 2จึงมีผลอย่างเดียวกับการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248ที่แก้ไขใหม่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2 นั้นชอบแล้วให้ยกคำร้อง