แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยข้อกฎหมายจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายทั้งสิ้น และเป็นข้อกฎหมายที่เป็นสาระสำคัญในคดีโปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฎหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล มีคำสั่งประทับฟ้องไว้พิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4ลงโทษจำคุก 1 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 106 แผ่นที่ 2)
จำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 108)
คำสั่ง
คดีนี้ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาของจำเลยที่ว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทไม่ตรงตามมูลหนี้ก็ดีและโจทก์ร่วมกับพวกใช้อุบายหลอกลวงหว่านล้อมให้จำเลยออกเช็คพิพาทแก่โจทก์ก็ดี เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ที่ศาลชั้นต้น สั่งไม่รับฎีกาของจำเลยนั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง