แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พลตำรวจจะมีอำนาจจับกุมในเขตต์ท้องที่ใดบ้าง และเมื่อถูกใช้ไปรักษาการณ์ในที่แห่งหนึ่งแล้ว จะขาดจากอำนาจและหน้าที่ทางสถานีตำรวจเกี่ยวแก่การจับกุมหรือไม่ เป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องพิจารณาจากพะยานหลักฐาน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจให้สินบนแก่พลตำรวจธงไชยเพื่อให้ปล่อยจำเลยซึ่งถูกจับฐานลักเล่นการพะนัน เหตุเกิดอำเภอไชยบาดาล จังหวัดลพบุรี ขอให้ลงโทษตาม อาญา ม.๑๒๕
จำเลยให้การปฎิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาได้ความว่า พลตำรวจ ธงไชย พลตำรวจมิตร์ และพลตำรวจทรง เป็นเจ้าพนักงานตำรวจกองกำกับการจังหวัดลพบุรี ซึ่งได้ถูกส่งไปรักษาการณ์ที่โรงงานก่อสร้างสะพานข้ามลำป่าสัก ตามที่โรงงานขอจ้างไปเพื่อคอยระวังดูแลทรัพย์สินของโรงงาน เห็นว่า เจ้าพนักงานทั้ง ๓ นี้เมื่อได้รับมอบหมายให้ไปรักษาการณ์ที่โรงงานอันเป็นหน้าที่พิเศษโดยฉะเพาะแล้ว ก็ไม่มีอำนาจจับกุมจำเลย การที่พลตำรวจเหล่านั้นจับกุมจำเลย จึงเป็นการกระทำนอกหน้าที่ ไม่อยู่ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานแม้จะฟังว่าจำเลยให้สินบนก็หาเป็นความผิดฐานให้สินบนเจ้าพนักงานไม่ งดสืบพะยานโจทก์จำเลย พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ตำรวจทั้ง ๒ นี้เป็นตำรวจกองกำกับการลพบุรี ตามปรกติมีอำนาจจับกุมผู้ทำผิดในเขตต์อำเภอไชยบาดาลได้ แม้จะไปรักษาการอยู่ที่โรงงานก็ไม่ทำให้อำนาจที่มีอยู่โดยปรกติหมดไป จึงมีอำนาจจับกุมจำเลย ต้องพิจารณาต่อไปว่า จำเลยให้สินบนพลตำรวจธงไชยจริงหรือไม่ ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพะยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงเท่านี้ยังชี้ขาดไม่ได้ ต้องประจักษ์ว่า ตำรวจจังหวัดลพบุรีแบ่งเขตต์อำนาจอย่างไร และพลตำรวจของสถานีตำรวจกองกำกับการจังหวัดลพบุรีมีอำนาจในเขตต์ใดบ้าง สำหรับพลตำรวจธงไชย พลตำรวจมิตรเมื่อได้รับมอบหมายให้ไปรักษาการณ์ที่โรงงานก่อสร้างนั้นได้ขาดจากอำนาจหน้าที่ทางสถานีตำรวจกองกำกับการลพบุรีหรือไม่ พิพากษายืน ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาสืบพะยานโจทก์จำเลยต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ