แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์และจำเลยต่างฎีกา คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา ของศาลฎีกา ต่อมาโจทก์ได้นำดินลูกรังมาถมทางพิพาทเป็นการ เพิ่มภาระทางภารจำยอม ขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามโจทก์กระทำการใด ๆ ในที่ดินพิพาทและให้โจทก์ขุดดินลูกรังออกไปจากทางพิพาทด้วย โปรดอนุญาต
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (ถ้อยคำสำนวนบังคับ 5)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยเปิดทางภารจำยอมในที่ดินโฉนดเลขที่ 2077 ตำบลเกาะศาลพระ อำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรีตามเส้นหมึกสีแดง ก. ค.ง. และ ข. ในแผ่นที่พิพาท ให้ถอนต้นกล้วยกับรื้อรั้วลวดหนามออกจากทางพิพาท ให้จำเลยไปจดทะเบียนภารจำยอม หากไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยและให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดิน เลขที่ 6077 ตำบลเกาะศาลพระ อำเภอวัดเพลง จังหวัดราชบุรี ให้โจทก์เพื่อดำเนินการจดทะเบียน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอของโจทก์ที่ให้จำเลยไปจดทะเบียนภารจำยอม หากไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยและให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดิน เลขที่ 6097 ตำบลเกาะศาลพระ อำเภอวัดเพลงจังหวัดราชบุรีให้โจทก์ เพื่อดำเนินการจดทะเบียน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตาม คำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ และจำเลยต่างฎีกา (อันดับ 74,72)
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว ศาลชั้นต้นนัดไต่สวน ไต่สวนเสร็จแล้วมีคำสั่งให้รวมสำนวนส่งศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่ง(ถ้อยคำสำนวนอันดับ 1,12)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ห้ามโจทก์กระทำการใด ๆ ในทางพิพาทในระหว่างฎีกา คำขออื่นให้ยก
