แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้เป็นคดีที่ราคาทรัพย์สินหรือจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท จึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขแล้วฎีกาของโจทก์เป็นการโต้แย้งการใช้ดุลพินิจในการรับฟังและ ชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามบทกฎหมายข้างต้น จึงไม่รับฎีกาของโจทก์
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่นายพลอยลงชื่อใน ส.ค.1 ผิดจากเจตนาที่นางอุ่มมอบหมายให้ไปแจ้งแทน นายพลอยไม่มีสิทธิครอบครองในที่พิพาทและที่พิพาทไม่เป็นมรดกตกแก่ทายาทของนายพลอย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยทั้งสี่ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 122 แผ่นที่ 2 ถึงที่ 5)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ห้องแถวและที่ดินพิพาทตามฟ้องเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 114)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 117)
คำสั่ง
ที่โจทก์ ฎีกาว่า การครอบครองที่พิพาทของนายพลอยเป็นการครอบครองแทนนางอุ่นนั้น เป็นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง