แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้มีจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง ส่วนข้อกฎหมายไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ไม่รับฎีกา
โจทก์ทั้งสองเห็นว่า ฎีกาของโจทก์ในประเด็นที่ว่าการรับฟังพยานหลักฐานของศาลขัดต่อกฎหมาย มิใช่เป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาล จึงไม่ต้องห้ามฎีกา ส่วนฎีกาข้อกฎหมายเป็นสาระสำคัญแห่งคดีอันควรได้รับการวินิจฉัย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ทั้งสองไว้พิจารณา พิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ทนายจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 126)
คดีทั้งสองสำนวนนี้ศาลได้มีคำสั่งให้รวมพิจารณาและพิพากษาเข้าด้วยกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ที่ 1 และให้โจทก์ที่ 1กับโจทก์ที่ 2 รื้อถอนบ้านเลขที่ 33 หมู่ที่ 4 ตำบลตลิ่งชันอำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี พร้อมทั้งขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินโฉนดเลขที่ 1879 ตำบลตลิ่งชันอำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี และห้ามเกี่ยวข้องให้โจทก์ทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยเดือนละ 800 บาท นับแต่วันฟ้องแย้ง (11 ตุลาคม 2530) เป็นต้นไปจนกว่า โจทก์ทั้งสองจะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวและขนย้ายทรัพย์สิน พร้อมทั้งบริวารออกไปจากที่ดินจำเลยเสร็จสิ้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 119)
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 122)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ทั้งสองยังไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครอง โจทก์ทั้งสองฎีกาขอให้รับฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ทั้งสอง ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองแล้ว ฎีกาของ โจทก์ทั้งสองจึงเป็นเรื่องโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟัง พยานหลักฐาน เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 คำสั่งศาลชั้นต้น ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง