แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสองเชื่อว่าศาลจะสั่งรับฎีกา ซึ่งฎีกา ของจำเลยทั้งสองมีภาระที่จะทำให้ศาลฎีกาเปลี่ยนแปลงคำสั่ง ศาลชั้นต้นได้ โปรดมีคำสั่งให้ระงับการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ได้ทำการขายทอดตลาดไว้ก่อนจนกว่า ศาลฎีกาจะมีคำสั่ง
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
สืบเนื่องจากโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ 18425 แขวงบางพลัด เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานครพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 2 ที่ 3 เพื่อบังคับชำระหนี้ ตามคำพิพากษา ฯลฯ เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดดังกล่าว โดยโจทก์เป็นผู้สู้ราคาสูงสุดและเป็นผู้ ซื้อทรัพย์ได้เป็นจำนวนเงิน 3,700,000 บาท จำเลยที่ 2 ที่ 3 ยื่นคำร้องว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตาม ระเบียบว่าด้วยการบังคับคดี โดยผู้เข้าสู้ราคาคนอื่นไม่มีโอกาส สู้ราคา หากมีการประมูลโดยถูกต้อง ราคาทรัพย์ที่ขาย จะสูงกว่านี้ ขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกการขายทอดตลาด ดังกล่าวและให้ประกาศขายใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 2 ที่ 3 อุทธรณ์และยื่นคำร้องขอให้ระงับการโอนกรรมสิทธิ์ในการขายทอดตลาดในระหว่างอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์สั่งว่า กรณีเป็นเรื่องขอให้คุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าไม่มีเหตุสมควรที่จะสั่งให้งดการดำเนินการเกี่ยวกับการขายทอดตลาดตามคำร้องของ ผู้ร้องให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 2 ที่ 3 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับ(อันดับ 3 แผ่นที่ 4)
จำเลยที่ 2 ที่ 3 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งพร้อมกับยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 4,5)
คำสั่ง
ศาลฎีกามีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ที่ 3 แล้วจึงไม่จำต้องสั่งคำร้องนี้