คำสั่งคำร้องที่ 341/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอดำเนินคดีชั้นฎีกาอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องของ โจทก์ โดยให้เหตุผลว่าโจทก์มิใช่บุคคลหรือนิติบุคคล จึงไม่อาจ เป็นคู่ความในคดีได้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง คดีโจทก์จึง ไม่มีเหตุอันสมควรฎีกา ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าโจทก์เป็นคนยากจน ไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมหรือไม่อีก หากโจทก์ ประสงค์จะฎีกาต่อศาลฎีกาต่อไป ให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียม มาวางศาลภายใน 15 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง
โจทก์เห็นว่า ในชั้นประเมินภาษีก็ดี ในชั้นอุทธรณ์ก็ดีล้วนแต่ดำเนินการในนามของโจทก์ทั้งสิ้น เมื่อประมวลรัษฎากรบัญญัติการฟ้องคดีเกี่ยวกับการขอเพิกถอนการประเมินไว้โดยเฉพาะแล้ว จึงหาอาจนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับได้ไม่ ส่วนประเด็นที่ว่าโจทก์เป็นคนยากจนอนาถาหรือไม่นั้น ชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบฟังได้โดยปราศจากความสงสัยว่า จำเลยที่ 1 ยึดและอายัดทรัพย์สินโจทก์ไว้หมดแล้ว และโจทก์ไม่มีทรัพย์สินเหลืออยู่ในครอบครองอีกทั้งโจทก์ ก็ไม่มีรายได้อื่นใดอีก จึงเห็นได้ว่าโจทก์เป็นคนยากจนอนาถาไม่มีเงินหรือทรัพย์สินพอที่จะนำมาชำระเป็นค่าธรรมเนียมศาลชั้นฎีกาได้ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไปโดยให้โจทก์ดำเนินคดีในชั้นฎีกาอย่างคนอนาถาได้ โปรดอนุญาต
หมายเหตุ จำเลยทั้งห้าได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 139 แผ่นที่ 4-5)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินของจำเลยที่ 1และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ จำเลยที่ 3ถึงที่ 4 เสีย
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา(อันดับ 118)
ศาลชั้นต้นได้ไต่สวนคำร้องแล้ว ไม่อนุญาตให้โจทก์ฎีกาอย่างคนอนาถา (อันดับ 137)
โจทก์จึงยื่นอุทธรณ์คำสั่ง (คำร้องอุทธรณ์คำสั่ง) นี้(อันดับ 138)
พิเคราะห์ แล้ว เห็นว่าโจทก์ไม่มีเหตุผลอันสมควรจะฎีกาที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาของโจทก์ชอบแล้วหากโจทก์ประสงค์จะฎีกาต่อไป ให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลชั้นต้นภายใน 15 วัน นับแต่วันฟังคำสั่งนี้

Share