คำสั่งคำร้องที่ 3274/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกา ในข้อหาความผิดต่อชีวิต และเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อคดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและให้ลงโทษ จำคุกจำเลยไม่เกินห้าปี ฎีกาของจำเลยจึงต้องห้ามฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะความผิดฐานย้ายศพ เพื่อปิดบังเหตุแห่งความตาย จึงไม่เป็นการพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกา ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7,8 ทวิ,72 วรรคแรก,72 ทวิ วรรคสอง คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 3,6,7 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288ประกอบกับมาตรา 72,199 เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนและ เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 1 ปี ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 4 เดือน รวมจำคุก 1 ปี 4 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ นับเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 8 เดือน ฐานฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะ จำคุก 6 ปี ฐานยักย้ายศพเพื่อปิดบังสาเหตุการตาย จำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 6 ปี 6 เดือน คำให้การในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์ แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงเหลือจำคุก 4 ปี 4 เดือน รวมเป็นจำคุกจำเลยทั้งหมด 4 ปี ของกลางริบ
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะความผิดฐานย้ายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย คงเหลือจำคุก จำเลยทั้งสิ้น 4 ปี 8 เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตาม คำพิพากษาของศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 72)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 75)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนหนึ่งข้อหา และพิพากษากลับหนึ่งข้อหา ไม่ใช่ยื่นทั้งสองข้อหา ฎีกาของจำเลยจึงไม่ต้องห้ามฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริง นั้น เห็นว่า กรณีเช่นนี้ต้องแยกพิจารณาเป็นฐานความผิดหรือข้อหาความผิดแต่ละเรื่อง จำเลยมิได้ฎีกาในข้อหาความผิดฐานย้ายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย จำเลยฎีกา แต่เพียงในข้อหาความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะและ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนในข้อนี้ ฎีกาของจำเลยในข้อนี้ ซึ่งเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share