แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์ของโจทก์มิได้กล่าวอ้างถึงว่าคำพิพากษาของศาลแรงงานกลางไม่ชอบด้วยกฎหมายในข้อใด ทั้งมิได้อุทธรณ์โต้แย้งให้เห็นว่าเหตุที่ศาลแรงงานกลางฟังมานั้นไม่ใช่เหตุสมควรที่จะเลิกจ้างได้ คงอุทธรณ์มีความสรุปสองประการคือ คำสั่งของจำเลยที่ 3 ไม่ชอบ ข้อที่อ้างว่าไม่ชอบนั้นก็กล่าวถึงเรื่องราวที่เป็นข้อเท็จจริง มิได้กล่าวอ้างว่าไม่ชอบด้วยระเบียบหรือกฎข้อบังคับในข้อใดอีกข้อหนึ่งก็อุทธรณ์ว่ามิได้ขัดคำสั่ง เมื่อศาลแรงงานกลางฟังว่าโจทก์ขัดคำสั่ง อุทธรณ์ของโจทก์ในสองประการนี้จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 54 ส่วนข้อที่โจทก์อุทธรณ์เรื่องการรับฟังเอกสารไม่ชอบนั้นศาลแรงงานกลางก็มิได้รับฟังเอกสารดังกล่าวจึงเป็นการคัดค้านการวินิจฉัยของศาลแรงงานกลาง จึงมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนและคดีนี้ศาลแรงงานกลางรับฟังพยานเอกสารหมาย ล.4 ทั้งที่มีรอยลบข้อความทั้งหมดและเขียนขึ้นใหม่อีกทั้งยังได้วินิจฉัยคดีขัดต่อพยานหลักฐานในสำนวน ดังนั้น คำสั่งของศาลแรงงานกลางไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ จำเลยที่ 1 ที่ 3 แถลงคัดค้าน (อันดับ 49)โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงานในตำแหน่งและอัตราค่าจ้างเดิม รวมทั้งชดใช้ค่าเสียหายที่ไม่ได้จ่ายค่าจ้างให้โจทก์ในระหว่างเลิกจ้างนับแต่วันเลิกจ้างจนถึงวันรับโจทก์กลับเข้าทำงานพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หรือมิฉะนั้นก็ขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายเนื่องจากการเลิกจ้างให้แก่โจทก์คิดตั้งแต่วันเลิกจ้างจนถึงวันครบเกษียณอายุเป็นเงินทั้งสิ้น 3,541.440 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ด้วย
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว(อันดับ 45)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 46)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ที่โจทก์อุทธรณ์ว่าจำเลยที่ 3 กลั่นแกล้งโจทก์ด้วยเหตุต่าง ๆ โดยยกคำเบิกความของพยานขึ้นกล่าวอ้างกับโจทก์ไม่เคยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของจำเลยที่ 3 กรณีจึงไม่เป็นการขัดคำสั่งนั้น เป็นเรื่องโต้แย้งการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลางที่ฟังว่า โจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของจำเลยที่ 3โดยมีความเห็นโต้แย้งคำสั่งนั้นก็ดี และที่อุทธรณ์ว่าคำสั่งของจำเลยที่ 3 ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนนั้น โจทก์ได้ยกพยานหลักฐานต่าง ๆ ขึ้นกล่าวอ้างแล้วขอให้วินิจฉัยข้อกฎหมายดังกล่าว เป็นข้ออุทธรณ์ที่ขอให้รับฟังข้อเท็จจริงแตกต่างจากที่ศาลแรงงานกลางรับฟังมาเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยข้อกฎหมายนั้น ต่างเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงทั้งสิ้น
ส่วนที่โจทก์อุทธรณ์ว่าศาลแรงงานกลางรับฟังพยานเอกสารหมายล.4 ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ปรากฏว่าศาลแรงงานกลางหาได้รับฟังพยานเอกสารฉบับนี้ไม่ จึงไม่เป็นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลแรงงานกลาง ที่ศาลแรงงานกลางไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง