คำสั่งคำร้องที่ 3172/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยทั้งสามฎีกา หากมีการโอนทรัพย์ที่ ขายทอดตลาดให้แก่โจทก์ในขณะนี้แล้ว โจทก์อาจนำทรัพย์ ไปโอนขายแก่บุคคลอื่น จักทำให้จำเลยทั้งสามได้รับความเสียหาย โปรดมีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นและเจ้าพนักงานบังคับคดีรอหรืองด การโอนทรัพย์ที่ขายทอดตลาดทั้ง 7 รายการไว้ก่อนโปรดอนุญาต
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (สำนวนที่ 3 อันดับ 86)
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยทั้งสาม ชำระหนี้แก่โจทก์ 18,804,098.41 บาท แต่จำเลยทั้งสามผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์ได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำเลยทั้งสามเพื่อบังคับชำระหนี้ วันที่ 9 สิงหาคม 2534เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยรวม 7 รายการ โจทก์เป็นผู้ให้ราคาสูงสุดทั้ง 7 รายการ รวมเป็นเงิน ทั้งสิ้น 21,762,000 บาท ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายได้
จำเลยทั้งสามยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3เป็นเจ้าของทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาด รวม 7 รายการ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2534 การขายทอดตลาด ดังกล่าวมีโจทก์เข้าสู้ราคาเพียงรายเดียว ส่วนบุคคลอื่น เป็นบุคคลที่โจทก์จัดหามาเข้าสู้ราคาพอเป็นพิธีเท่านั้น ดังนั้นการขายทอดตลาดครั้งนี้จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนั้นการขายทอดตลาดดังกล่าวก็มีการสมยอม เข้าสู้ราคาทำให้ขายได้ราคาต่ำกว่าราคาท้องตลาดมาก จึงขอให้ มีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดทรัพย์ทั้ง 7 รายการ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสามฎีกา และทนายจำเลยทั้งสามยื่นคำร้องดังกล่าว (สำนวนที่ 3 อันดับ 79,78)
ชั้นอุทธรณ์ จำเลยทั้งสามขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ยกคำร้อง (สำนวนที่ 3 อันดับ 64)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ไม่มีเหตุผลสมควรที่จะอนุญาตให้คุ้มครองประโยชน์ของจำเลยทั้งสามในระหว่างพิจารณา ให้ยกคำร้อง

Share